22-26 มิถุนายน 2022 งานชุมนุมครอบครัวสากล ครั้งที่ 10 จัดขึ้นที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี
ตามข่าวพระศาสนจักรกันนิด มารับพระวาจาไปใช้ชีวิตครอบครัวกันนะคะ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นใคร และครอบครัวของข้าพเจ้าสำคัญอย่างไร พระองค์จึงทรงนำข้าพเจ้ามาไกลถึงเพียงนี้ (2ซมอ. 7:18)
ครอบครัวประชาชาติทั้งหลาย จงสรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด จงสรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์และพระอานุภาพของพระองค์ (สดด. 96:7)
ที่เมืองซีซารียา ชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส เป็นนายร้อยในกองทหารที่เรียกว่า “กองร้อยอิตาเลียน” เขาและทุกคนในครอบครัวเคารพรักและยำเกรงพระเจ้า เขาเคยให้ทานจำนวนมากแก่ประชาชนชาวยิวและอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าอยู่เสมอ (กจ. 10:1-2)
จงเชื่อพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ท่านและครอบครัวจะได้รอดพ้น (กจ. 16:31)
จงอย่าพูดคำเลวร้ายใด ๆ เลย จงพูดแต่คำดีงามเพื่อช่วยกันเสริมสร้างผู้อื่นตามโอกาสและเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บรรดาผู้ได้ยินได้ฟัง (อฟ. 4:29)
จงยอมอยู่ใต้อำนาจของกันและกัน ด้วยความเคารพยำเกรงพระคริสตเจ้า (อฟ. 5:21)
ภรรยาจงยอมอยู่ใต้อำนาจของสามีเหมือนยอมอยู่ใต้อำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะสามีเป็นศีรษะของภรรยา เหมือนพระคริสตเจ้าทรงเป็นพระเศียรของพระศาสนจักร (อฟ. 5:22-23)
สามีก็จงรักภรรยาดังที่พระคริสตเจ้าทรงรักพระศาสนจักร และทรงพลีพระองค์เพื่อพระศาสนจักร (อฟ. 5:25)
สามีต้องรักภรรยาเหมือนรักกายของตนเอง ผู้ที่รักภรรยาก็รักตนเอง (อฟ. 5:28)
แต่ละท่านจงรักภรรยาของตนเหมือนรักตนเอง และภรรยาก็จงเคารพยำเกรงสามี (อฟ. 5:33)
บุตรทั้งหลาย จงเชื่อฟังบิดามารดาในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะการกระทำเช่นนี้ถูกต้อง (อฟ. 6:1)
บิดา อย่าย้ำสอนจนบุตรขุ่นเคือง แต่จงอบรมสั่งสอนและตักเตือนเขาตามหลักธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า (อฟ. 6:4)
ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตนความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน (คส. 3:12)
จงผ่อนหนักผ่อนเบากัน หากมีเรื่องผิดใจกันก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยแก่เขาอย่างนั้นเถิด (คส. 3:13)
แต่เหนือสิ่งใดจงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ (คส. 3:14)
ภรรยาจงอยู่ใต้อำนาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า (คส. 3:18)
สามีจงรักภรรยาและอย่าทำให้นางรู้สึกขมขื่น (คส. 3:19)
บุตรจงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า (คส. 3:20)
บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไป จนเขาท้อแท้หมดกำลังใจ (คส. 3:21)
จงให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และจงช่วยเสริมสร้างซึ่งกันและกันดังที่ท่านกำลังกระทำอยู่แล้วนี้เถิด (1ธส. 5:11)
จงเอาใจใส่ดูแลหญิงม่ายที่ไร้ญาติ ถ้าหญิงม่ายคนใดมีบุตรหลาน ก็ให้บรรดาบุตรหลานเหล่านั้นเรียนรู้หน้าที่ต่อครอบครัวเสียก่อน และทดแทนบุญคุณบิดามารดาของตน เพราะนี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย (1ทธ. 5:3-4)
ข้าพเจ้ายังระลึกถึงความเชื่อที่จริงใจของท่านเป็นความเชื่อแต่เดิมของโลอิสยายของท่าน เป็นความเชื่อของยูนิสมารดาของท่าน และข้าพเจ้ามั่นใจว่าเป็นความเชื่อของท่านด้วย (2ทธ. 1:5)
เราจงพิจารณาหาทาปลุกใจกันและกันให้มีความรักและประกอบกิจการดี (ฮบ. 10:24)
จงระลึกถึงวันในอดีต วันที่ท่านสู้ทนความทุกข์ทรมานมากมายหลังจากที่ได้รับความส่วาง (ฮบ. 10:32)
เราทุกคนต่างมีบิดาผู้ให้กำเนิดเฆี่ยนตีสั่งสอนเรา และเราเคารพท่าน (ฮบ. 12:9)
เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง (ฮบ. 12:11)
ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ (ยก. 1:19)
เช่นเดียวกัน สามีต้องร่วมชีวิตกับภรรยาโดยคำนึงว่าสตรีเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า จงให้เกียรติภรรยาในฐานะที่เธอร่วมเป็นทายาท รับชีวิตเป็นของประทานจากพระเจ้า (1ปต. 3:7)