ประโยชน์ของการอ่านพระคัมภีร์ประโยชน์ของการอ่านพระคัมภีร์
ประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านพระคัมภีร์ที่สำคัญก็คือ
(1) พระคัมภีร์ทำให้เราเกิดความสำนึกผิดเมื่อทำบาป
       พระคัมภีร์จะช่วยให้เราได้เห็นความผิดหรือ บาปที่เราได้กระทำอย่างชัดเจน  ทำให้เรามีความสำนึกที่ตัวในการทำบาปของเรา และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยการขอกลับคืนดีกับพระเจ้า และด้วยการละทิ้งบาปนั้นที่จะไม่ทำต่อไปอีกในชีวิตของเรา ดังที่มีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่า...

“ข้าแต่พระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อไป”  (สดด.119:11)

"ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์ เพื่อสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม  คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง" (2 ทธ.3:16-17)

(2) การศึกษาพระคัมภีร์จะทำให้เรามีความหวัง
         ความหวังเป็นของประทานอันอุดมสมบูรณ์มาจากพระเป็นเจ้า ซึ่งจะมีอยู่ท่ามกลางผู้มีความเชื่อเท่านั้น พระคัมภีร์ก็คือ พระวาจาหรือคำสอนของพระเจ้า ผู้ใดที่เชื่อและปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะพบกับความหวัง ซึ่งเป็นพระวิญญาณของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระวจนะของพระองค์ในพระคัมภีร์ที่มีกล่าวถึงว่า

“สิ่งที่เขียนไว้ก่อนนั้นก็เขียนไว้สำหรับสั่งสอนเรา เพื่อเราจะมีความหวังอาศัยความอดทนพากเพียรและการปลอบใจที่มาจากพระคัมภีร์”  (โรม 15 : 4)

(3)การศึกษาพระคัมภีร์ทำให้เกิดสันติสุข
        ผู้ที่รู้และเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า จะมีความรู้สึกปิติยินดีและมั่นคงที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขามากขึ้น และจะทำให้เขาได้มีโอกาสพบกับสันติสุขกับพระเจ้าซึ่งเป็นสันติสุขที่มนุษย์ทุกคนทั่วโลกเสาะแสวงหาและสันติสุขดังกล่าวจะค้นหาได้จากที่เดียวคือ ในพระคัมภีร์

คริสตชนใดที่ขาดการศึกษาพระวจนะจากพระเจ้าในพระคัมภีร์ เขาผู้นั้นจะไม่มีโอกาสพบกับสันติสุขที่แท้จริงในชีวิตของเขาเลย ดังที่มีการกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่า

“บุคคลที่รักพระธรรมของพระองค์ จะมีสันติสุขอันยิ่งใหญ่”  (สดด.119:165)

(4) การศึกษาพระวจนะของพระเจ้าจะทำให้เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างที่เกิดกับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี
        ผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์จะพบว่าปัญหาต่างๆที่เรามีในชีวิตของเรานั้น พระคัมภีร์ได้บอกถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นไว้ให้เราแล้วทุกประการ หากเราได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า และมีความเชื่อและไว้วางใจในพระองค์อย่างแท้จริงแล้วปัญหาต่างๆก็จะได้รับการช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า ดังที่ได้มีการเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

“ข้าพเจ้ารู้เพียงว่า พระจิตเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าในทุก ๆ เมืองว่า โซ่ตรวนและความยากลำบากกำลังรอข้าพเจ้าอยู่” (กจ.20:23)

"ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์ เพื่อสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม  คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง"  (2 ทธ.3:16-17)

          นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกมมากมายที่ยืนยันว่าการอ่านพระคัมภีร์จะช่วยทำให้ชีวิตคริสตชนของท่านดีขึ้น และจะทำให้ท่านได้เจริญชีวิตจิตกับพระเป็นเจ้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้ท่านได้พบกับสันติสุขกับพระเจ้ามากขึ้น จึงควรที่คริสตชนจะได้ให้ความสนใจต่อการอ่านพระคัมภีร์ เพื่อจะได้ให้พระคัมภีร์เป็นแสงสว่างนำชีวิตของตนได้พบกับความรอด

          คริสตชนจึงไม่ควรจะปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไปโดยมิได้อ่านพระคัมภีร์หรืปล่อยให้พระคัมภีร์วางไว้บนชั้นหนังสือหรือในตู้โดยปราศจากการเหลียวแล เช่น คนจำนวนมากกระทำกันอยู่

          จงลุกขึ้น...ไปหยิบพระคัมภีร์มาอ่านเสียในเวลานี้เถิด แล้วท่านจะได้พบว่าชีวิตของท่านช่างมีสันติและความสุขเสียนี่กระไร ทำไมหนอจึงไม่มีใครแนะนำให้เราอ่านพระคัมภีร์ก่อนหน้านี้มานานแล้ว และชีวิตของเราในทุกวันนี้ก็จะดียิ่งกว่านี้มากมายนัก