ความซื่อสัตย์ความซื่อสัตย์

ความหมาย  ประพฤติตรงและจริงใจ  ไม่คิดคดทรยศ  ไม่คดโกงและไม่หลอกลวง
ข้อคิด   “ซึ่อกินไม่หมด  คดกินไม่นาน”
            “ความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมของคนดี”
           “อย่าทำให้ผู้อื่นหมดความไว้วางใจในตัวเรา”
           “สายตาที่สื่อถึงความจริงใจ  คือพลังแห่งมิตรภาพ”
ประโยชน์ของการมีความซื่อสัตย์ 
1.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
2.เป็นคนเปิดเผย จริงใจต่อตนเองและผู้อื่น
3.เสริมสร้างให้ตัวเองเป็นคนกล้าหาญ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
4.เป็นที่เชื่อถือ และไว้ใจของคนอื่น
5.ชีวิตมีความสุข

โทษของการไม่มีความซื่อสัตย์  
1.ชีวิตและหน้าที่การงานไม่ประสบความสำเร็จ
2.ถูกมองเป็นคนขี้โกง ทุจริต ไม่มีระเบียบวินัยต่อตนเองและผู้อื่น
3.ไม่เป็นที่เชื่อถือของคนอื่น
4.อาจหันไปประกอบอาชีพทุจริต ทำผิดกฎหมาย

เนื้อหาในพระคัมภีร์
        “พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนเที่ยงธรรม  พระองค์ทรงเป็นโล่ให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความซื่อสัตย์”    ( สภษ 2 : 7 )
        “อย่าให้ความจงรักภักดี และความซื่อสัตย์ทอดทิ้งเจ้า จงผูกมันไว้ที่คอของเจ้าจงเขียนมันไว้ที่แผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า”   ( สภษ 3 : 3 )
       “คนที่สัตย์ซื่อในของเล็กน้อยจะสัตย์ซื่อในของมากด้วย และคนที่อสัตย์ในของเล็กน้อย  จะอสัตย์ในของมากเช่นกัน”   ( ลก 16 : 10 )
      “เพราะเรามุ่งที่จะเป็นคนสัตย์ซึ่อ มิใช่เฉพาะแต่ในสายพระเนตรองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น  แต่ในสายตาของคนทั้งปวงด้วย”   ( 2 คร 8 : 21 )
      “ต้องเป็นคนเอาการเอางาน  ไม่ใส่ร้ายผู้อื่น  เป็นคนรู้จักประมาณตน และเป็นคนสัตย์ซึ่อในประการทั้งปวง”     ( 1 ทธ 3 : 11 )
     “สอนให้เราละทิ้งความอธรรมและโลกีย์ตัณหา และดำเนินชีวิตในยุคนี้อย่างมีสติสัมปชัญญะ  สัตย์ซื่อสุจริตและตามคลองธรรม”  ( ทต 2 : 12 )

เรื่องสั้นหรือบทความ  ผลของความซื่อสัตย์
           ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องใช้รองเท้าหุ้มส้น ผูก สีน้ำตาลเพื่อใช้กับเครื่องแบบตรวจการ  ได้เข้าไปดูที่ร้านรองเท้ามีชื่อแห่งหนึ่ง  พบรองเท้าสีน้ำตาล ผูก แต่เป็นแบบสปอร์ต จึงถามคนขายว่า รองเท้าแบบนี้ใช้กับเครื่องแบบตรวจการได้หรือไม่ เขาบอกว่าใช้ได้ ข้าพเจ้าไม่ทันได้อ่านระเบียบชัดเจนก็นึกว่าคงจะใช้ได้ แต่ใจหนึ่งคิดว่าไปอ่านระเบียบเสียให้แน่นอนก่อน จะได้ไม่เสียเวลาและเงินเปล่า จากนั้นจึงได้ไปดูที่ร้านรองเท้าอีกแห่งหนึ่ง ก็พบรองเท้าสีน้ำตาลแบบเดียวกันนั้นเข้าอีก  แต่คนขายพูดคนละอย่างว่า  “รองเท้าสีน้ำตามแบบสปอร์ตนี้ ถ้าจะว่ากันตามระเบียบจริง ๆ แล้ว ก็ใช้แต่งกับเครื่องแบบตรวจการไม่ได้ ต้องใช้แบบเรียบ ๆ รองเท้าแบบตรวจการเคยมีจำหน่ายทีนี่ แต่บัดนี้หมดเสียแล้ว”  ข้าพเจ้านึกชมคนขายนั้น  ที่พูดตามความจริง ก็เลยซื้อรองเท้าคู่นั้น ไม่ใช่เพื่อจะเอามาใช้กับเครื่องแบบตรวจการ แต่ซื้อเพื่อเป็นรางวัลความสุจริตของผู้ชายคนนั้น 

           มีคนเป็นอันมาก ที่ยอมพูดเท็จเพื่อหากำไรเพียงเล็กน้อย แต่ต้องสูญเสียกำไรมาก ๆ ที่จะได้ภายหลัง  คนขายของที่หลอกลวงผู้ซื้อมักตั้งร้านอยู่ไม่รอด หรือไปรอดก็หาทางเจริญไม่ได้

           การที่คนยอมพูดเท็จนั้น  ก็โดยเหตุสองอย่างคือ  โลภหนึ่ง เห็นแก่ตนเองหนึ่ง  ความโลภและความเห็นแก่ตนเอง   ทำให้คนนั้นขาดความสัตย์สุจริต   ถ้าอยู่กับคณะก็ทำให้คณะต้องเสียชื่อเสียง อยู่ในสังคมก็ทำให้สังคมต้องเดือดร้อน ถ้ามีคนอย่างนี้ในชาติมากๆ ก็ทำให้ชาติวุ่นวาย แตกแยก หาสามัคคีมิได้   เบนจามิน  แฟรงกลิน ปราชญ์คนสำคัญของอเมริกาให้คำเตือนใจ ที่มีชื่อเสียงมากไว้คำหนึ่งว่า  “ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นวิธีการเยี่ยมยอด ”
            ท่านผู้อ่านควรยึดเป็นทางปฏิบัติในการดำรงชีวิต จะเห็นว่าได้ผลเกินคาด

พฤติกรรมที่ปรารถนาให้ผู้เรียนปฏิบัติ
   + ฝึกที่จะเป็นคนซื่อตรงต่อตนเอง และผู้อื่นในทุก ๆ เรื่อง
   + กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อยืนยันถึงความซื่อสัตย์ของเราและ
      เรียกร้องให้คนรอบข้างเราซื่อสัตย์ด้วย