คำสอนเรื่องการจองหอง (Pride)คำสอนเรื่องการจองหอง (Pride)       
 การจองหองคือความคิดเห็นที่ไม่เป็นจริงของตัวเอง
         คนเย่อหยิ่งจะวิจารณ์ข้อเสียของผู้อื่นเพื่อให้ผู้ฟังชื่นชมสรรเสริญตัวเขามากขึ้น  ยิ่งเขาทำตัวตกต่ำมากเท่าไร เขาก็ยิ่งแสวงหาความไร้ค่าของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น   เขาพูดถึงสิ่งที่เขาได้ทำและสิ่งที่ไม่ได้ทำ  เขาคิดหาถ้อยคำที่จะยกยอตัวเอง และหาวิธีที่จะเสริมให้ดูดียิ่งขึ้นตลอดเวลาเพราะยังไม่พอใจต่อคำสรรเสริญที่ได้รับอยู่   หากเราแสดงว่าไม่เห็นด้วยกับการแสดงความรักตัวเองของเขาแม้เพียงเล็กน้อย  เขาจะโกรธและจะด่าว่าเราโง่และไม่มีเหตุผลกับเขา...  ลูกรัก  เรารู้จักตัวเราอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราอยู่ต่อหน้าพระเจ้าเท่านั้น.   ยังเป็นการพูดไม่ชัดอีกหรือว่าตัวเราไม่มีอะไรเลย, เราทำอะไรไม่ได้เลย, เราเป็นเพียงคนที่น่าสงสารเท่านั้น? เราจะหนีห่างจากบาปและทำตนเป็นคนสุภาพหรือยัง ?


        หากเราพิจารณาตัวเองให้ดี เราก็คงจะเป็นคนสุภาพถ่อมตัวได้ และปีศาจแห่งความจองหองก็จะเข้ามาอยู่ในใจของเราไม่ได้อีกต่อไป.   วันเวลาของเราเป็นเหมือนต้นหญ้าที่ทุกวันนี้ยังขึ้นงอกงามอยู่ตามท้องทุ่ง และอีกไม่นานก็จะเหี่ยวแห้งตายไป เช่นเดียวกับฝักข้าวโพดที่สดอยู่ได้ไม่นาน เมื่อถูกแดดเผาก็จะแห้ง.   ลูกรัก ถูกแล้วขณะนี้เรายังมีชีวิตกันอยู่, สุขภาพยังคงแข็งแรง แต่พรุ่งนี้ก็อาจเป็นวันที่เราจะถูกเก็บเกี่ยวเหมือนฝักข้าวโพดหรือถูกตัดเหมือนต้นหญ้า... สิ่งต่างๆ ที่ดูเหมือนกระฉับกระเฉงและส่องแสงเป็นประกาย หรือสิ่งที่สวยงามทั้งหลายล้วนอยู่ได้ไม่นาน...  ความรุ่งโรจน์ของโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นความหนุ่มสาว, เกียรติยศชื่อเสียง, ความมั่งคั่ง, ล้วนล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับต้นหญ้าและดอกไม้ในท้องทุ่ง... ให้เราคิดไตร่ตรองให้ดีว่าวันหนึ่งเราจะกลายเป็นฝุ่นดิน, วันหนึ่งเราจะถูกโยนเข้ากองไฟเหมือนกับหญ้าแห้งหากเราไม่เกรงกลัวพระเจ้าผู้พระทัยดี

         ลูกรัก  คริสตังที่ดีรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจะไม่ว้าวุ่นในเรื่องที่เกี่ยวกับร่างกาย  พวกเขาจะดูหมิ่นเรื่องทางโลก และจะใคร่ครวญแต่เพียงเรื่องวิญญาณของตนเองและหาวิธีที่จะสนิทสัมพันธ์กับพระ.   เราจะยังเย่อหยิ่งจองหองอีกหรือเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวอย่างของพระอาจารย์ที่ทรงลดตัวลงเป็นผู้ต่ำต้อยและสุภาพถ่อมตน จนทุกวันนี้?  พระเยซูคริสตเจ้าทรงลงมาในโลกนี้  ทรงรับเอากายเป็นมนุษย์, ทรงถือกำเนิดอย่างต่ำต้อย, ทรงเจริญชีวิตในความยากจน, สิ้นพระชนม์โดยถูกประจานอยู่บนกางเขนระหว่างมหาโจร 2 คน...  พระองค์ทรงตั้งศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่า, ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ทรงติดต่อกับเราโดยทรงซ่อนพระกายอยู่ในแผ่นศีล, ทรงถ่อมตนอย่างที่สุดในศีลศักดิ์สิทธิ์นี้.  พระองค์ยังคงอยู่ในตู้ศีลอย่างต่อเนื่อง  ถูกทอดทิ้งและได้รับการอกตัญญูจากคนที่เข้าใจพระองค์ผิด แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังคงรักเรา และทรงรับใช้เราในศีลศักดิ์สิทธิ์บนพระแท่น

        ลูกรักเอ๋ย!  พระเยซูเจ้าประทานตัวอย่างความสุภาพถ่อมตนแก่เราอย่างแท้จริง  จงมองดูพระองค์ที่ถูกบาปของเราตรึงติดอยู่บนกางเขนให้ดี  พระองค์ทรงเรียกเราและตรัสกับเราว่า “มาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน” (มธ 11:29)  นักบุญทั้งหลายเข้าใจคำเชื้อเชิญของพระองค์ และดังนั้นจึงแสวงหาความสุภาพถ่อมตนและความทุกข์ทรมาน  ขอให้เรายึดตัวอย่างของท่านเหล่านั้น  จงอย่ากลัวที่จะถ่อมตนและถูกผู้อื่นดูหมิ่น   นักบุญยอห์นแห่งพระเจ้า (John of God : 1495-1550) เมื่อกลับใจใหม่ๆ  ใช้โทษบาปด้วยการตีอกชกหัวตามท้องถนนจนผู้คนหาว่าบ้าและถูกขว้างปาด้วยก้อนหิน ร่างกายเปรอะเปื้อนด้วยดินโคลนและเลือด...  ลูกรัก  พระเจ้าผู้พระทัยดีมิได้ทรงปรารถนาให้เราปฏิบัติตนถึงขนาดนั้น  พระองค์ทรงพอพระทัยเพียงให้เราเป็นคนสุภาพถ่อมตน  เป็นเหมือนกับเด็กเล็กๆ และพระองค์จะประทานพระพรเพื่อให้เราไปหาพระองค์และมีความสุขเช่นเดียวกับนักบุญทั้งหลาย
       
**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
แปลจาก http://saints.sqpn.com/stj18028.htm