สรุปบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทียสรุปบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทีย
    
ภูมิหลังของจดหมายฉบับนี้คล้ายๆกับจดหมายถึงชาวโรม ที่เห็นว่าความเชื่อของพวกเขาไม่มั่นคง ไปเชื่อคำสอนผิดๆ หรือที่บิดเบือนไป เปาโลจึงเน้นย้ำและยืนยันคำสอนที่ถูกต้อง



        สาระสำคัญของจดหมายมีอยู่สามประเด็นใหญ่ๆ คือ ชี้แจงว่าท่านเป็นอัครสาวกจริง และท่านเป็นผู้นำข่าวดีที่เราได้รับความรอดพ้นอาศัยความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าและดังนั้นคริสตชนจึงเป็นคนอิสระ และแถมท้ายด้วยคำตักเตือนบางประการ

1. เปาโลเป็นอัครสาวกจริง
1) ท่านได้รับการเรียกจากพระเยซูคริสตเจ้าโดยตรง มิใช่จากมนุษย์ให้ประกาศข่าวดีแก่คนต่างศาสนา(1:15-16)
2) ท่านได้พบปะกับบรรดาอัครสาวกคนอื่นๆ เช่น อยู่กับเคฟาส ยากอบ คนส่วนใหญ่รู้ว่าท่านเคยเบียดเบียนข่มเหงคริสตชนมาก่อน แต่บัดนี้กลับมาประกาศความเชื่อ ซึ่งทำให้พวกเขา “ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะข้าพเจ้า”(1:24)
3) ท่านไปกรุเยรูซาเล็มเพื่อชี้แจงงานที่ท่านได้กระทำกับคนต่างศาสนาแก่บรรดาอัครสาวก (2:1-14)
4) ที่สุดท่านได้ยืนยันอีกครั้งว่าความรอดมาจากเชื่อในพระเยซูเจ้า มิใช่การปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ ท่านประกาศว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในตัวข้าพเจ้า ชีวิตที่ข้าพเจ้ากำลังดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ข้าพเจ้าดำเนินชิตในความเชื่อถึงพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักเราและทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า”(2:20)

2. ข่าวดีที่เปาโลประกาศ
1) เราทุกคนได้รับการไถ่ให้รอดพ้นเพราะพระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ
2) ให้เรามีความเชื่อแล้วพระเจ้าจะประทานพระจิตให้ท่าน
3) ให้ดูแบบอย่างของอับราฮัม ท่านเป็นผู้ชอบธรรมเพราะความเชื่อมิใช่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ เพราะพระเจ้าทรงประทานพันธสัญญาให้อับราฮัมก่อนที่จะมีธรรมบัญญัติ  อับราฮัมเชื่อในพันธสัญญานั้นตลอดมา
4) ธรรมบัญญัติเป็นเสมือนครูพี่เลี้ยงที่นำเราไปพบพระคริสตเจ้า เพื่อเราจะได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยความเชื่อ เมื่อมีความเชื่อมาถึงแล้ว เราก็ไม่ถูกครูพี่เลี้ยงควบคุมอีกต่อไป(3:23-25)
5) เราทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า โดยอาศัยความเชื่อในพระคริสตเยซู เพราะท่านทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้า ก็สวมพระคริสตเจ้าไว้(3:26-29)
6) เมื่อเราเป็นคนของพระคริสตเจ้าแล้ว เราก็เป็นบุตร เป็นบุตรก็ย่อมเป็นทายาทที่มีสิทธิจะได้รับมรดก

3. คำตักเตือน
1) ให้เรามีความเชื่อที่แสดงออกเป็นการกระทำอาศัยความรัก(5:6)
2) ใช้เสรีภาพในการทำตามพระจิตเจ้า มิใช่ทำตามความปรารถนาของเนื้อหนัง(5:13-25)
3) ให้มีจิตใจดีและความมานะพากเพียร – ช่วยคนที่หลงผิด – พิจารณาตนเองอยู่เสมอ - อย่าท้อแท้ในการทำความดี – จงทำดีแก่ทุกคน โดยเฉพาะแก่พี่น้องผู้ร่วมความเชื่อของเรา(6:1-10)