ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

สรุปคำสอนจากบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ 1 และ 2สรุปคำสอนจากบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ 1 และ 2
ภูมิหลัง
         จุดมุ่งหมายของเปาโลในการเขียนจดหมายคือการเสริมสร้างความเชื่อให้กับบรรดาคริสตชนที่อาศัยอยู่ตามศูนย์กลางที่มีประชากรหนาแน่น และที่เมืองโครินธ์นี้เป็นเมืองท่าใหญ่และมีพลเมืองมากมีโอกาสที่จะเผยแผ่ความเชื่อออกไปได้กว้างขวาง กลุ่มคริสตชนที่เปาโลก่อตั้งนั้นขยายตัวออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น ส่วนใหญ่เป็นคนยากจน(1คร 1:26-28) เมืองโครินธ์เป็นทั้งศูนย์กลางใหญ่ของวัฒนธรรมกรีกที่ดึงดูดปรัชญาและศาสนาทุกประเภทมารวมกันและเป็นเมืองที่มีความเสื่อมทางศีลธรรม ดังนั้นสภาพแวดล้อมเช่นนี้ย่อมมีผลต่อการดำเนินชีวิตของคริสตชนชาวโครินธ์ ดังนั้นเปาโลจึงได้เขียนจดหมายถึงเพื่อแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้

 

I  การแตกแยกและการเป็นตัวอย่างไม่ดี

1. เรื่องแบ่งแยก (1:10-4:21)
สภาพการณ์ : เปาโลรู้จากคนในครอบครัวของคะโลเอว่ามีการทะเลาะวิวาทกัน(1:11) แบ่งแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า เช่น พวกของเปาโล พวกของอปอลโล พวกของเคฟาส

คำสอนของเปาโล
1) ให้ยึดพระเยซูตริสตเจ้าเป็นหลักแต่เพียงผู้เดียว เพราะพระองค์เท่านั้นที่ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปเรา บรรดาสาวกล้วนแต่เป็นผู้รับใช้-ผู้ดูแล ธรรมล้ำลึกของพระเจ้า(4:1) เป็นเพียงผู้ประกาศผู้มีหน้าที่ประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น(1:17) และเราทุกคนต่างก็เป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น(เทียบ 1:4)

2) อย่ายึดติดผู้ประกาศฯเพราะเห็นว่าคนนั้นฉลาดหรือพูดเก่ง เพราะการประกาศข่าวดีของพระเจ้าจะบังเกิดผลมิใช่เพราะจากสำนวนโวหารหรือด้วยความฉลาด แต่เพราะ “ถ้อยคำของพระเจ้ามีอานุภาพ” (2:4) และ ด้วย “การทำงานของพระจิต” (เทียบ 2:131) ที่เป็นเช่นนี้เพื่อจะได้มิให้ใครโอ้อวดในผลงาน “ผู้ใดจะโอ้อวด ก็ให้ผู้นั้นโอ้อวดในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด”1:31)

3) ส่วนบทบาทของผู้เทศน์นั้น เปาโลสอนว่าทุกคนเป็นเพียงผู้รับใช้ที่นำความเชื่อมาให้ประชาชน เปรียบเสมือนเป็นเพียงผู้ปลูกและผู้รดน้ำต้นไม้แห่งความเชื่อ แต่พระเจ้าทรงบันดาลให้เติบโต(3:5-8) ท่านยังเปรียบชีวิตของเราเหมือนการสร้างตึกที่ต้องยึดพระเยซูเจ้าเป็นฐาน(3:10-11) และบรรดาผู้เทศน์สอนยังเปรียบเหมือนพระวิหารของพระเจ้าที่พระจิตเจ้าประทับอยู่ คือเป็นบุคคลศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าทรงคุ้มครอง(3:16)

4) ดังนั้นผู้เทศน์จึงต้องอย่าคิดหรืออวดว่าตนเองฉลาดปราดเปรื่อง “จงยอมโง่จึงจะเป็นคนฉลาดที่แท้จริง...เพราะความฉลาดของมนุษย์ในโลกนี้เป็นความโง่เขลาเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า”(3:18-19) และพวกเราทุกคนต่างเป็นของพระคริสต์และพระคริสต์เป็นของพระเจ้า(3:23)

5) ผู้เทศน์เป็นเพียงผู้รับใช้ ผู้จัดการธรรมล้ำลึกของพระเจ้า ดังนั้น จึงต้องเป็นผู้ที่ไว้วางใจได้(4:2) ไม่หยิ่งผยอง ไม่เข้าข้างคนหนึ่งและต่อว่าอีกคนหนึ่ง – ไม่โอ้อวด(4:6) และคิดอยู่เสมอว่า “เราเป็นเสมือนขยะมูลฝอยของโลก เป็นสิ่งปฏิกูลของทุกคน(4:13)

6) ทุกสิ่งที่ท่านสอนท่านได้เอาตัวเองเป็นประกัน โดยบอกว่า “ข้าพเจ้ายกเรื่องเหล่านี้เกี่ยวกับตนเองและอปอลโลเป็นตัวอย่างเพื่อประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านเรียนรู้จากเรา”(4:6)

ข้อคิด :
1) หมู่คณะของเรามีความแตกแยกกันบ้างหรือไม่ สาเหตุของการแตกแยกคืออะไร ท่านมีคำแนะนำอะไรเพื่อให้เกิดความปรองดองกันบ้าง
2) ท่านรู้สึกอย่างไร ถ้าเห็นใครชอบโอ้อวด หรือหยิ่งผยอง และตัวท่านเองเป็นคนเช่นนี้บ้างหรือเปล่า
3) ท่านทำงานโดยยึดอะไรเป็นหลักในชีวิต ความสำเร็จ หรือคำชมเชย หรือค่าตอบแทน หรืออะไรอื่นๆ
4) ท่านจะทำงานอย่างไรให้มีความสุข

2. ความผิดเรื่องทางเพศ :
        การมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างญาติใกล้ชิด(5:1-13) - การล่วงประเวณี(6:12-20)
สภาพการณ์ : มีข่าวร่ำลือกันมากว่ามีการผิดประเวณีเกิดขึ้นในหมู่ท่าน ชนิดที่ไม่เคยพบเคยเห็นในหมู่คนต่างศาสนา คือ มีคนหนึ่งได้แม่เลี้ยงของตนมาเป็นภรรยา และการประพฤติผิดอื่นๆอีกมากมาย

คำเตือนของเปาโล :
(1) ให้ยึดพระเยซูเจ้าองค์ปัสกาที่ถูกฆ่าบูชาชำระบาปเราแล้วไว้(5:7) ชำระตนให้บริสุทธิ์ จงเป็นดังแป้งไร้เชื้อคือความจริงใจและสัจจะ อย่ายึดแป้งเก่าคือความชั่วร้ายเลวทราม(เทียบ 5:6-8)

(2) เปาโลตัดสินว่าการได้แม่เลี้ยงมาเป็นภรรยาเป็นความผิดที่รุนแรงมาก ท่านแนะนำว่า “จงมอบคนประเภทนี้ให้กับซาตาน ให้เขามีชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อจิตของเขาจะรอดพ้นในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า(5:5)

(3) และท่านยังได้แนะนำให้วางตัวกับบุคคลเหล่านี้รวมถึงคนที่ประพฤติผิดอื่นๆอีกว่า....อย่าคบหาสมาคมกับบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้อง แต่ผิดประเวณี โลภเอาแต่ได้ กราบไหว้รูปเคารพ นินทาว่าร้ายผู้อื่น ดื่มสุราเมามายหรือชอบลักขโมย อย่ากินอาหารร่วมโต๊ะกับคนประเภทนี้...จงขจัดคนชั่วร้ายออกไปจากหมู่คณะของท่าน”(5:11,13)

(4) เรื่องการร่วมประเวณี ท่านสอนให้เคารพร่างกายของกันและกัน เป็นต้นศักดิ์ศรีอันสูงส่งของร่างกายของเราแต่ละคน “ร่างกายมิได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า”(6:13) “ร่างกายเป็นส่วนประกอบของพระวรกายของพระคริสตเจ้า แล้วจะเอาส่วนประกอบนี้ไปร่วมกับร่างกายของหญิงโสเภณีหรือ”(6:15) “ร่างกายของท่านเป็นพระวิหารของพระจิต...พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาแพง ดังนั้นจงใช้ร่างกายของท่านถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด”(6:19-20)

ข้อคิด
1) ท่านคิดว่าพฤติกรรมเรื่องเพศในสังคมปัจจุบันของเราเป็นอย่างไรบ้าง
2) เราจะสอนเด็กๆและเยาวชนของเราให้รู้จักเคารพศักดิ์ศรีและร่างกายของตนเองได้อย่างไรบ้าง

3. การชำระข้อพิพาทในศาลของคนต่างศาสนา(6:1-11)
สภาพการณ์ : เมื่อมีข้อพิพาทหรือขัดแย้งกันบรรดาคริสตชนไม่สามารถตกลงกันเองได้ แต่กลับไปพึ่งคนต่างศาสนา
คำแนะนำของเปาโล
1) เป็นเรื่องที่น่าละอายใจ ที่พี่น้องต้องเป็นความกัน รังแกและฉ้อโกงกันต่อหน้าผู้ที่ไม่มีความเชื่อ
2) ให้ผู้มีอำนาจในพระศาสนจักรเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่ให้คนอื่นมาตัดสิน
3) คนที่ทำผิดย่อมไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้า เราทุกคนได้รับการชำระล้างบาปและได้รับความศักดิ์สิทธิ์อันเนื่องมาจากความตายของพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว ดังนั้นจงอย่ากระทำผิดต่อกันและกันหรือกับผู้ใดเลย
ข้อคิด
1) ความสัมพันธ์ของท่านกับครอบครัวและพี่ๆน้องๆเป้นอย่างไรบ้าง
2) ความสัมพันธ์ของท่านกับเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างไรบ้าง
3) เมื่อมีข้อขัดแย้งกันท่านมีวิธีปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อแก้ไขความขัดแย้งนั้น

II  คำตอบปัญหาต่างๆ

4. การสมรสกับการถือพรหมจรรย์(7:1-39)
คำถาม : คริสตชนควรแต่งงานหรือไม่
เปาโล : การที่คนหนึ่งไม่แต่งงานนั้นเป็นการดี ถึงกระนั้นเพื่อป้องกันมิให้ผิดประเวณีก็ควรแต่งงาน(7:1-4)..และอย่าปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์แก่กันและกัน เว้นแต่จะได้ตกลงกันงดเพศสัมพันธ์ระยะหนึ่งเพื่ออุทิศตนอธิษฐานภาวนา(7:5) ส่วนผู้ที่ไม่แต่งงานและหญิงม่าย การอยู่เป็นโสดเป็นการดี แต่ถ้าบังคับตนเองไม่ได้ ก็จงแต่งงาน เพราะการแต่งงานดีกว่าถูกไฟราคะเผาผลาญ

ถาม : คนที่แต่งงานแล้วควรปฏิบัติตนอย่างไร
เปาโล : ภรรยาอย่าแยกจากสามี แต่ถ้าแยกกันแล้วก็อย่าแต่งงานอีก หรือมิฉะนั้นก็จงคืนดีกับสามี ส่วนสามีก้อย่าขับไล่ภรรยาของตน

ถาม : แต่งงานกับคนต่างความเชื่อได้หรือไม่
เปาโล : ถ้าพี่น้องคนหนึ่งมีภรรยาที่ไม่มีความเชื่อและนางเต็มใจอยู่กินกับเขา เขาไม่ต้องหย่าขาดจากนาง ถ้าหญิงมีสามีที่ไม่มีความเชื่อและเขาเต็มใจอยู่กับนางก็ไม่ต้องหย่าขาดเช่นเดียวกัน เพราะสามีที่ไม่มีความเชื่อได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าโดยทางภรรยา และภรรยาที่ไม่มีความเชื่อก็ได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าโดยทางสามีที่มีความเชื่อ มิฉะนั้นบุตรของท่านก็จะมีมลทิน แต่ในความเป็นจริงบุตรนั้นได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้าแล้ว

ถาม : ถ้าฝ่ายที่ไม่มีความเชื่อขอหย่าจากกัน ทำอย่างไร
เปาโล : ถ้าฝ่ายที่ไม่มีความเชื่อขอแยกจากกัน ก็ให้เขาแยกไปเถิด ในกรณีเช่นนี้ฝ่ายที่มีความเชื่อไม่ว่าชายหรือหญิงก็ไม่มีพันธะใดๆอีก พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้อยู่อย่างสันติ

ถาม : แล้วคนอื่นๆควรประพฤติตนเช่นใด
เปาโล : สำหรับผู้อื่น จงดำรงอยู่ในสภาพที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดให้... คนที่ยังไม่แต่งงานควรอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่ในเวลานี้(7:26) คนที่แต่งงาน ก็อย่าหาทางแยกพันธะนั้น..ท่านที่เป็นอิสระไม่มีภรรยาก็อย่าหาภรรยาเลย...โดยแท้จริงแล้วผู้ที่แต่งงานจะประสบความยุ่งยากในชีวิตสมรสและข้าพเจ้าใคร่จะให้ท่านพ้นจากความยุ่งยากนั้น(7:28) ส่วนคนที่แต่งงานแล้วก็จงอย่ายึดติด เพราะ “โลกดังที่เป็นอยู่กำลังจะผ่านไป”(7:31)

ถาม : ถ้าอยู่เป็นโสดดีอย่างไร
เปาโล : คนที่แต่งงานย่อมสาละวนกับการงานของโลก และหาวิธีทำให้สามีหรือภรรยาพอใจ แต่คนที่เป็นโสดย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า สามารถอุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยปราศจากความกังวลใจ(7:32-35)

ถาม : ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไปแต่งงานใหม่ได้หรือไม่
เปาโล : ภรรยาย่อมมีพันธะผูกพันตราบที่สามียังมีชีวิตอยู่ ถ้าสามีสิ้นชีวิต นางย่อมเป็นอิสระที่จะแต่งงานใหม่กับใครก็ได้ตามที่นางปรารถนา แต่ต้องเป็นการแต่งงานในองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่านางจะมีความสุขมากกว่า ถ้าจะคงอยู่อย่างที่เป็นและข้าพเจ้าเชื่อว่า ข้าพเจ้ามีพระจิตของพระเจ้าด้วย(7:39)

ข้อคิด
1) สภาพชีวิตของท่านเป็นอย่างไร ท่านแต่งงานแล้วหรือยัง
2) ท่านคิดว่าชีวิตแต่งงานจะช่วยให้ท่านมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้อย่างไร
3) ทำไมเปาโลจึงเน้นให้อยู่เป็นโสด ไม่แต่งงาน

5. อาหารที่ถวายแด่รูปเคารพ(8:1-11:1)
ถาม : คริสตชนจะกินอาหารที่ถวายแด่รูปเคารพของศาสนาอื่นๆได้หรือไม่
คำตอบของเปาโล : กินได้เพราะของถวายแด่พระอื่นๆนั้นไม่มีความหมายอะไร เรามีพระเจ้าพระผู้สร้างแต่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ของทุกอย่างมาจากพระเจ้า แต่ต้องระวังอย่าใช้เสรีภาพของท่านเป็นโอกาสให้ผู้ที่มโนธรรมอ่อนไหวต้องตกในบาป ถ้าอาหารเป็นเหตุให้พี่น้องตกในบาป ท่านก็จะไม่กินเนื้ออีก

III  ระเบียบในศาสนพิธี
6. งานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า(11:17-34)
สภาพการณ์ : ในงานชุมนุมกัน มีการแตกแยก ขัดแย้ง ระหว่างคนรวยกับคนจน มีการกินที่เห็นแก่ตัว
คำตอบของเปาโล : ให้แต่ละคนจงพิจารณาตนเองแล้วจึงกินปังและดื่มจากถ้วย เพราะผู้ใดที่กินและดื่มโดยไม่ยอมรับรู้พระกายก็กินและดื่มการตัดสินลงโทษตนเอง และแนะนำให้จัดระเบียบให้เรียบร้อย

ข้อคิด : เราร่วมพิธีบูชามิสซาฯและเข้ารับศีลมหาสนิทด้วยความเหมาะสมหรือไม่ เราได้เตรียมตัวเพื่อการรับศีลมหาสนิทอย่างไร

7. พระพรพิเศษจากพระจิต(12:1-13:13)
สภาพการณ์ : แต่ละคนมีพระพรพิเศษต่างๆมากมายแต่ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่หมู่คณะ และบางครั้งยังเป็นสาเหตุให้เกิดความแตกแยกอีกด้วย

คำสอนของเปาโล
1) พระพรพิเศษมีหลายประการแต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม(12:4-7)
2) พระพรที่แตกต่างกันเปรียบเทียบกับร่างกายที่ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ(12:12-24)
3) ท่านทั้งหลายเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างเป็นอวัยวะของพระกายนั้น(12:27)
4) พระพรที่สำคัญคือ ความรัก (13:1-13)

ข้อคิด :
1) ท่านได้รับพระพรพิเศษจากพระจิตเจ้าในเรื่องใดบ้าง และท่านได้ใช้พระพรนั้นเพื่อส่วนรวมอย่างไรบ้าง ท่านอาสาทำงานเพื่อส่วนรวมอะไรบ้าง
2) ถ้าให้ท่านสรุปความหมายของความรักตามคำสอนของเปาโล ท่านจะสรุปอย่างไร

IV  การกลับคืนชีพ
8. ข้อเท็จจริงเรื่องการกลับคืนชีพ(15:1-58)
สภาพการณ์
: เรื่องการกลับคืนชีพจากความตายเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ชาวโครินธ์บางคนไม่เชื่อเรื่องนี้

คำสอนของเปาโล
1) เรื่องการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าเป็นแก่นกลางแห่งความเชื่อของคริสต์ศาสนา และสำหรับชีวิตของเปาโลเป็นพิเศษ การที่ท่านกลับใจและกล้าหาญในการประกาศข่าวดีนี้ก็เพราะท่านเชื่อในเรื่องนี้

2) ท่านประกาศว่า ท่านยึดมั่นในคำสอนจากพระคัมภีร์และประเพณีที่ได้รับมา คือ พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์เพราะบาปของเรา และทรงถูกฝังไว้ พระองค์ทรงกลับคืนชีพในวันที่สามตามความในพระคัมภีร์

3) หลังจากนั้นพระองค์ได้ทรงแสดงองค์ให้แก่พี่น้องมากกว่า 500 คนในคราวเดียวกัน และแสดงองค์แก่ท่านด้วย ด้วยเหตุนี้ทำให้ท่านทำงานหนักเพื่อประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ ท่านประกาศว่า “ถ้าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ การเทศน์ของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นเรากลายเป็นพยานเท็จถึงพระเจ้าเพราะเรายืนยันว่าพระเจ้าทรงปลุกพระคริสตเจ้าให้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ” (15:14-15) และอีกตอนหนึ่งว่า “ถ้าไม่มีการกลับคืนชีพ ทำไมเราจึงเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอดเวลาเล่า”(15:30)

4) การกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายเป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงหลับไป ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น(15:20) พระเยซูเจ้าทรงทำลายความตาย พระองค์ทรงเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน(15:28)

5) เราจงกลับมาดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อย่าทำบาปอีก(15:34)

6) แล้วผู้ตายจะกลับคืนชีพอย่างไร? “ทุกคนจะกลับเป็นขึ้นมาพร้อมกับร่างกายของตนเองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” แต่กายนี้ “จะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นกานอันทรงพระสิริของพระองค์ คือ เป็น “การวิญญาณ”(15:44) “บางคนถามว่า คนตายจะกลับคืนชีพได้อย่างไร เขาจะกลับมีร่างกายแบบไหน ช่างโง่จริง เมล็ดที่ท่านหว่านลงไปนั้น จะมีชีวิตใหม่ได้อย่างไรถ้าไม่ตายเสียก่อน เมล็ดข้าวสาลีหรือเมล็ดพืชอื่นที่ท่านหว่านลงไปนั้นเป็นเพียงเมล็ดมิใช่ลำต้นที่จะงอกขึ้น สิ่งที่หว่านลงไปนั้นย่อมเน่าเปื่อย แต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นไม่เน่าเปื่อยอีก เพราะธรรมชาติที่เน่าเปื่อยได้ของเรานี้ จะต้องสวมใส่ความไม่เน่าเปื่อย และธรรมชาติที่ต้องตายนี้จะต้องสวมใส่ความไม่รู้จักตาย”(15:35-37; 42:42-53)

V การทำบุญ:การจัดเก็บเงินบริจาค(2 คร8:1-15)
        เรื่องการให้รวบรวมเงินบริจาคให้กับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ เปาโลเอาใจใส่เป็นพิเศษ และได้พยายามโน้มน้าวชาวโครินธ์ให้มีใจกว้างคือ

1) แม้คริสตชนในพระศาสนจักรต่างๆในแคว้นมาซิโดเนียจะยากจนและต้องทนทุกข์อย่างสาหัส เขาก็มีความสุข และยังมีใจกว้างบริจาคเงินช่วยเหลือกัน(2 คร 8:1-2) และการให้ย่อมทำให้ได้รับ(2 คร 9:6)

2) เราต้องปฏิบัติตามแบบอย่างของพระคริสตเจ้า “ท่านก็รู้อยู่แล้วถึงพระกรุณาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา แม้ทรงร่ำรวย พระองค์ทรงยอมกลายเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่าน”(2 คร 8:9) “พระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยความยินดี”(2 คร 8:7)

3) พระเจ้าประทานสิ่งต่างๆให้แก่เรา เพื่อให้เรารู้จักให้ผู้อื่นด้วย  “ในยามที่ท่านมีความบริบูรณ์เช่นเวลานี้ ท่านควรช่วยเหลือผู้อื่นที่ขัดสน” (2 คร 8:14) “พระเจ้าประทานพระหรรษทานทุกประการแก่ท่านอย่างอุดม...เพื่อจะแจกจ่ายได้อย่างกว้างขวาง”(2 คร 8:8,11)

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

“ครูคาทอลิกผู้นำความหวัง” อบรมครูคาทอลิกสังฆมณฑลราชบุรี ประจำปีการศึกษา 2568/2025
“ครูคาทอลิกผู้นำความหวัง” อบรมครูคาทอลิกสังฆมณฑลราชบุรี ประจำปีการศึกษา 2568/2025 วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี ได้จัดอบรมครูคาทอลิก...
อบรมครูคำสอนสังฆมณฑลราชบุรี ปี 2025 “ครูคำสอนผู้นำความหวัง”
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี จัดการอบรมครูคำสอนประจำปีการศึกษา 2568 ในหัวข้อ “ครูคำสอนผู้นำความหวัง” ณ...
กิจกรรมสะสมแสตมป์
กิจกรรมสะสมแสตมป์ "ลูเช่และผองเพื่อน ชวนไปวัด" 2025 {gallery}photo/2025/stamp-book-2025{/gallery}

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 229 ในการเป็นทุกข์ถึงบาปต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
🎯 ในการเป็นทุกข์ถึงบาปต้องเตรียมตัวอย่างไร ?#YOUCAT 229 บอกเราว่า…...
Youcat 374 ทำไมพระเจ้าจึงทรงสำคัญกว่าครอบครัว ?
ทำไมพระเจ้าจึงทรงสำคัญกว่าครอบครัว ? YOUCAT 374 บอกเราว่า…...
Youcat 273 พระศาสนจักรยังคงกระทำการขับไล่ปีศาจหรือไม่ ?
พระศาสนจักรยังคงกระทำการขับไล่ปีศาจหรือไม่ ? การขับไล่ปีศาจ (EXORCISM) การขับไล่ปีศาจ...

พระวาจานำชีวิต

ชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า
ให้เราละทิ้งชีวิตเก่า แล้วสวมชีวิตพระเจ้า เพื่อเป็นชีวิตใหม่ที่ตายจากบาป ขอพระวาจาพระเจ้าเสริมกำลังและนำทางเราเสมอ ข้าแต่พระเจ้า...
ทำความดีตามคำสอนของพระเจ้า
ให้เราทำความดีตามคำสอนของพระเยซูเจ้ากัน ทำด้วยความรัก เต็มใจและจริงใจ จะทำดีได้อย่างไรบ้าง ให้พระวาจาพระเจ้านำทางเรา...
พระเจ้าทรงตอบแทนตามการกระทำของแต่ละคน
พระเจ้าจะทรงตอบแทนตามการกระทำของเราที่อยู่ในโลกนี้ แวะมาอ่านพระวาจาพระเจ้าและนำไปปฏิบัติกัน ขอพระยาห์เวห์ทรงตอบแทนการกระทำของเธอ ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งเธอมาขอความปกป้องคุ้มครองจากพระองค์...

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC238 ควรทำให้พระศาสนจักรปรากฏตนและพร้อมที่จะช่วยเหลือในความกังวลอย่างมารดา
สิ่งสำคัญเช่นเดียวกันที่ต้องพิจารณาว่ามีเด็กและวัยรุ่นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากความเปราะบางของสายสัมพันธ์ภายในครอบครัว แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีความมั่งคั่งทางการเงินก็ตาม คนอื่น ๆ ยังคงอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีความยากจน...
DC237 การศึกษาในสาขาสังคมวิทยา จิตวิทยาวิชาครู และการสื่อสาร เป็นประโยชน์อย่างมากในการอธิบายลักษณะอย่างเป็นรูปธรรมของเด็ก
การศึกษาในสาขาสังคมวิทยา จิตวิทยาวิชาครู และการสื่อสาร เป็นประโยชน์อย่างมากในการอธิบายลักษณะอย่างเป็นรูปธรรมของเด็กซึ่งมีสถานการณ์ชีวิตที่หลากหลายในบริบททางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ในความเป็นจริงแล้วตัวแปรทางสังคมและวัฒนธรรมมีอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพของเด็กและวัยรุ่น...
DC236 มานุษยวิทยาและการเรียนการสอนยืนยันในความเป็นจริงว่าเด็กสามารถสัมพันธ์กับพระเจ้าได้
“โดยอาศัยการพิจารณาด้วยความเชื่อและเหตุผล พบว่ากลุ่มเด็กที่อยู่ระหว่างสองวัยนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย คือ กลุ่มวัยเด็กเล็ก (early...

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 183 (ปีการศึกษา2024)

สารคำสอน 183 (ปีการศึกษา2024)

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์

สถิติการเยี่ยมชม

0.png8.png7.png2.png6.png9.png1.png
วันนี้305
เมื่อวานนี้2767
สัปดาห์นี้11971
เดือนนี้44630
ทั้งหมด872691

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

2
Online

วันศุกร์, 19 กันยายน 2568 03:41