การฉลองคริสตมาสในสังคมปัจจุบันเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป เราจะได้รับรู้เรื่องวันคริสตมาสจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์จากสื่อต่างๆมากกว่าจากโบสถ์หรือวัดของเรา เจ้าของธุรกิจต่างพากันแข่งขัน ตบแต่งห้างร้านด้วยแสงสีสวยงามเพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆที่พวกเขาจัดเตรียมไว้อย่างชาญฉลาด
แม้แต่ในเมืองไทยของเรา เราจะเห็นการประดับท้องถนนและห้างร้านด้วยต้นคริสตมาสสีเขียวสดใส หรือรูปของคุณลุงซานต้าคุณลุงผู้ใจดีพร้อมกับถุงของขวัญที่เด็กๆทุกคนใฝ่ฝันอยากได้ของขวัญสักชิ้นจากท่าน หรือประดับป้ายคำอวยพร Merry X’mas ให้ทุกคนที่ผ่านมาผ่านไปได้รับการอวยพร
ห้างสรรพสินค้าต่างๆถือว่าเทศกาลคริสตมาสนี้เป็นโอกาสที่จะทำเงินทำทองให้กับห้างร้านของตน บางห้างปรับเปลี่ยนเวลาการทำการ เริ่มเร็วขึ้น ปิดช้าลง เสียงเพลงในห้างล้วนแต่เป็นเพลงสนุกสนานที่เกี่ยวกับการฉลองคริสตมาสที่เรียกว่า Christmas carols ซึ่งเป็นบทเพลงเก่าแก่อำมตะที่ทุกคนคุ้นเคย ในบางแห่งจะมีกลุ่มเด็กๆและเยาวชนพากันเดินร้องเพลงคริสตมาสไปตามบ้านเรือนเพื่อนำความสุขความยินดีไปเผื่อแผ่แก่ครอบครัวต่างๆ หรือไม่ก็เพื่อระดมทุนเพื่อการกุศลในโอกาสนี้บางบริษัทจัดงานปาร์ตี้ให้กับสมาชิกผู้ร่วมงาน มีการกิน ดื่ม ร้องเพลง จับสลาก เต้นรำ สนุกกันบางหลังทำงานอย่างหนักมาตลอดปี
ราวกลางเดือนธันวาคม บ้านเรือนของชาวยุโรปจะพากันตบแต่งประดับประดาบ้านเรือนของพวกเขาด้วยเครื่องตบแต่งวันคริสตมาส ซึ่งมักจะได้แก่ ต้นคริสตมาส ดาว ของขวัญ การดาษสีต่างๆ รูปซานตาครอส ถ้ำพระกุมาร นักปราชญ์สามคนพร้อมของขวัญ ฯลฯ ในวันเหล่านี้แสงสีเริ่มตระการตามากยิ่งขึ้น
ในหลายๆประเทศ คนส่วนใหญ่มักจะส่งบัตรอวยพรให้แก่เพื่อนๆ ผู้ที่เคารพนับถือ สมาชิกในครอบครัว บัตรอวยพรที่ได้รับมาแล้วส่วนใหญ่จะนำมาติดไว้ที่ข้างฝาบ้านในลักษณะต่างๆ ในแต่ละปี ชาวอังกฤษจะส่งบัตรอวยพรให้แก่กันเป็นจำนวนล้านๆใบ
