ccp018.jpgบทเรียนที่       1 เดือนมกราคม 1995
หัวข้อเรื่อง       เด็กและเยาวชนในครอบครัว
จุดมุ่งหมาย     
พระเยซูทรงส่งเยาวชนไปประกาศข่าวดีในโลก

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

ภาพโลโก้ของเยาวชน

- ครูถามนักเรียนว่า ภาพโลโก้นี้มีอะไรบ้าง?
- เด็กตอบ เสากระโดง คลื่น ใบเรือ คนพายเรือ เรือ
- ครูถามความหาย

 เสากระโดงมีความหมายอะไร (พระคริสตเจ้า – กางเขน)
 ใบ มีความหมายอะไร  (พระจิต – ลม)
 เรือ มีความหมายอะไร (พระศาสนจักร)
 คลื่น มีความหมายอะไร (อุปสรรค)
 คนพายเรือ มีความหมายอะไร (คริสตชนทุกคน)

- ครูเฉลยความหมายต่างๆ ให้เด็กรู้

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

 ครูอธิบายที่มาของภาพโลโก้นี้และอธิบายความหมาย อีกครั้ง

 ภาพโลโก้นี้มาจากผลการประกวดโลโก้ในงานชุมนุมเยาวชนโลกที่มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นการให้ความหมายตามข้อใหญ่ใจความของสารของพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ถึงเยาวชนในปีนี้คือ “พระบิดาส่งเราฉันใด เราก็ส่งท่านไปฉันนั้น” ส่งไปทำอะไร? ไปประกาศข่าวดีในโลก เช่นเดียวกับในสมัยของพระเยซูเจ้าที่ได้ส่งบรรดาอัครสาวกไปประกาศข่าวดี

 ในภาพของโลโก้นั้นเป็นรูปเรือที่กำลังฝ่าคลื่นลม เสากระโงนั้นมีความหมายคือพระคริสตเจ้า (กางเขน) เพราะว่าเสากระโงนั้นทำมาจากไม้ไผ่ ไม้ไผ่นี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฟิลิปปินส์ ใบคือพระจิตเจ้า (ลม) เรือคือพระศาสนจักร คลื่นคืออุปสรรค คนพายเรือคือคริสตชนทุกคนรวมทั้งเยาวชนด้วย

ขั้นที่ 3 คำสอน

1. “พระบิดาส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านไปฉันนั้น” (ยน 20:21) พระวาจานี้เองได้ปลุกใจมิสชันนารีรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้ละทิ้งบ้านช่อง พี่น้องลงเรือออกทะเลลึกไปประกาศข่าวดียังแดนไกล ต้องตรากตรำลำบากแสนสาหัส ผิดทั้งสถานที่ ผิดทั้งอากาศ ผิดทั้งอาหารการกิน ผิดทั้งผู้คน ผิดทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ก็ไม่มีใครย่นย่อ หลายคนต้องเอาชีวิตมาทิ้งเสียกลางทาง ส่วนใหญ่ก็มาตายแล้วฝากร่างฝังไว้ในแดนมิสซัง บ้างก็ตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บบ้างก็ตายเพราะถูกเบียดเบียน

2. บัดนี้พระวาจาเดียวกันดังก้องมาถึงหูของเยาวชนผ่านทางพระสันตะปาปา พวกเราเยาวชนจ่ะทำประการใดดี? จะทำไขหูเสีย ทำเป็นไม่ได้ยินกระนั้นหรือ? อย่างนี้ก็ผิดวิสัยของเยาวชนคนกล้าผู้ซึ่งใครๆ ก็ยกย่องว่าชอบการเสี่ยงและท้าทาย เยาวชนอย่างเรานี่แหละได้เคยกู้บ้านกู้เมืองมาแล้วเมื่อ 14 ต.ค. และ 17 พ.ค. ยังจำได้ไหม? ฉะนั้นเราคงไม่อยู่เฉย แต่คงจะจับมือกันลุกขึ้นมากอบกู้ศาสนา กอบกู้ศีลธรรม กอบกู้อาณาจักรของพระเป็นเจ้า กอบกู้มนุษยชาติที่กำลังถูกย่ำยีทำร้ายในรูปแบบต่างๆ เช่น การข่มเหงคะเนงร้าย การละเมิดสิทธิมนุษยชน (โสเภณีเด็ก แรงงานเด็ก) การฆ่าผู้บริสุทธิ์ (ทำแท้ง) เป็นต้น

3. อาวุธที่เยาวชนต้องใช้เพื่อพิชิตความเลยร้ายเหล่านี้คือ การปลุกสำนึกของเพื่อนเยาวชนด้วยกัน การประกาศยืนยันข่าวดีของพระเป็นเจ้า โดยเฉพาะข่าวดีเรื่องความรัก พยายามหาหนทางเปลี่ยนจิตใจหินของมนุษย์ให้กลับมาเป็นหัวใจเนื้อ คือ มีความรู้สึกต่อบาปบุญคุณโทษ ผิดชอบชั่วดี จะได้หันมาองคนอื่นๆ เหมือนเป็นพี่เป็นน้องร่วมโลก จะได้เลิกท่าทีที่เป็นอริต่อกัน และรักใคร่ปรองดองช่วยเหลือกัน

4. ลำพังเยาวชนเองคงทำงานใหญ่นี้ไม่สำเร็จถ้าขาดพระเป็นเจ้าเป็นผู้สนับสนุนค้ำจุน เพราะฉะนั้นเยาวชนต้องหันเข้าหาพระเป็นเจ้า ต้องสวดภาวนาต้องรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะศีลแก้บาปและศีลมหาสนิท เพื่อพระองค์ผู้ทรงส่งเราไปจะได้ทรงติดตามช่วยเหลือเราต่อไปด้วย “ข้าพเจ้าเป็นคนหว่าน อะปอลโลเป็นคนรดน้ำ แต่พระเป็นเจ้าผู้ทำให้เจริญเติบโต (1คร 3:6) เราเป็นคนประกาศ แต่พระเป็นเจ้าเป็นผู้ทำให้เกิดผล เราจึงต้องสวดภาวนาพร้อมๆ กับประกาศข่าวดีจึงจะหวังผลได้

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. ข้อควรจดจำ

1. ข้อใหญ่ใจความของสารของพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ถึง เยาวชนปีนี้คือ “พระบิดาส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านไปฉันนั้น” (ยน 20:21) ส่งไปทำอะไร? ไปประกาศข่าวดี

2. อาวุธที่เยาวชนต้องใช้พิชิตความเลวร้ายคือ การปลุกสำนึกของเพื่อนเยาวชนด้วยกัน การประกาศยืนยันข่าวดีของพระเป็นเจ้าโดยเฉพาะข่าวดีเรื่องความรัก พยายามหาหนทางเปลี่ยนจิตใจหินของมนุษย์ให้กลับมาเป็นหัวใจเนื้อ

3. เยาวชนทำงานสำเร็จได้ต้องมีพระเป็นเจ้าเป็นผู้สนับสนุนค้ำจุนโดยหันเข้าหาพระเป็นเจ้า ต้องสวดภาวนา ต้องรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะศีลแก้บาปและศีลมหาสนิท

ข. กิจกรรม

“สอยดาว”
 
ครูนำฉลาก เขียนเกี่ยวกับงานแพร่ธรรมลงไป เช่น เฝ้าศีล เยี่ยมคนป่วย ไปวัดวันอาทิตย์ เยี่ยมคนชรา เยี่ยมคนตาบอด ช่วยงานวัดในเทศกาลคริสต์มาส ฯลฯ นำฉลากที่เขียนนี้ไปติดกับเปลือกท๊อฟฟี่ แล้วนำไปแขวนติดกับต้นไม้ เพื่อให้เด็กสอยดาว เมื่อได้ดาวแล้วให้อ่านให้เพื่อนๆ ฟังหน้าชั้นเรียน เพื่อเพื่อนๆ จะได้เป็นพยานว่า ตัวเองจะนำสิ่งที่สอยได้ไปปฏิบัติ