ccp022.jpg บทเรียนที่        1 เดือนสิงหาคม 1995
หัวข้อเรื่อง        นางรูธสตรีผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี
จุดมุ่งหมาย     
เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จักและชื่นชมความดีของนางรูธ และพร้อมที่จะประพฤติตามแบบอย่างของเธอในเรื่องความซื่อสัตย์ และจงรักภักดี

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

ให้เลือก
1. ครูเล่าเรื่องนางรูธให้นักเรียนฟัง หรือ
2. ให้นักเรียนแสดงละครเรื่องนางรูธ โดยครูเป็นผู้บรรยาย นักเรียนเพียงแต่ทำท่าทางหรือ
3. ให้เด็กดู วีดีโอ ชุด Super Book ตอนนางรูธ หรือ
4. ครูแนะนำหนังสือนางรูธให้เด็กอ่านก็ได้ โดยครูบอกให้ เช่น นรธ บทที่ 1- บทที่ 4

นางรูธ” (ตามหัวข้อเลือกที่ 1)

 ประเทศโมอับ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ตั้งแต่แรก โมอับและอิสราแอลไม่เคยเป็นมิตรกันเลย ก่อนอิสราแอลเข้าครองคานาอัน โมอับข้างบาลาฮัมให้แช่งอิสราแอล (กดว 22.1-23, 13) เมื่ออิสราแอลครองคานาอันแล้ว โมอับก็รุกรานอิสราแอลและยึดได้เมืองเยรีโค ชาวอิสราแอลในเมืองเยรีโคต้องตกเป็นทาสอยู่เป็นเวลา 18 ปี (วนค 3.12-30) เรื่องนางรูธเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยผู้วินิจฉัน (1200 – 1020 ก.ค.ศ.) ได้เกิดการกันดารอาหารในประเทศอิสราแอล มีครอบครัวหนึ่งมีหัวหน้าครอบครัวชื่อ เอลีเมเลคเป็นชาวเบธเลเฮมในแคว้นยูดา ได้พาครอบครัวอพยพไปประเทศโมอับ ต่อมาเอลีเมเลค และบุตรชายทั้งสองได้สิ้นชีวิตในประเทศโมอับเหลือแต่นางนาโอมีกับบุตรสะใภ้ชาวโมอับสองคน นางนาโอมีจึงปล่อยบุตรสะใภ้ทั้งสองกลับบ้าน ส่วนนางนาโอมีจึงกลับประเทศยูดา ฝ่ายนางรูธบุตรสะใภ้ไม่ยอมจาก ขอกลับมาพร้อมแม่ผัวถึงเบธเลเฮม เพื่อเป็นคู่ร่วมทุกข์สุขของแม่ผัว ต่อมาได้แต่งงานกับโบอาส ญาติใกล้ชิดของสามีเพื่อสืบตระกูลของมาท์โลน สามีที่เสียชีวิตไปแล้วตามประเพณีสืบตระกูลของอิสราแอล นางรูธมีบุตรชื่อ โอเบค ซึ่งเป็นบิดาของเจสซี เจสซีมีบุตรชื่อ ดาวิด นางรูธจึงเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ โดยเป็นย่าทวดของดาวิดกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราแอล

 นางรูธเป็นคนต่างชาติ เป็นหญิงชาวโมอับ ชีวิตของนางแสดงออกถึงความรักแม่ผัว ซื่อสัตย์ต่อสามี และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของอิสราแอล มีความรักและเสียสละ มีความจงรักภักดีและเคารพบูชาพระเจ้าของอสิราแอล นางรูธจึงเป็นตัวอย่างของผู้จงรักภักดี

1. นางรูธติดตามแม่ผัวด้วยความรัก (ตามหัวข้อเลือกที่ 2)
ประมาณกลางสมัยผู้วินิจฉันเกิดการกันดารอาหารในอิสราแอล เอลีเมลมีภรรยาชื่อนาโอบีและบุตรชาย 2 คนได้อพยพจากเมืองเบธเลเฮมแห่งยูดาห์ ข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปอยู่ในประเทศโมอับ แต่เอลิเมเลคเสียชีวิตที่นั่น บุตรชายชื่อมาห์โลน จึงแต่งงานกับรูธ และกิลิโอนแต่งงานกับโอรปาห์ ทั้งคู่เป็นหญิงโมอับ ต่อมาชายทั้งสองก็เสียชีวิตเช่นกัน ทิ้งหญิงทั้งสองไว้เป็นหม้าย

 นางนาโอบีจึงอนุญาตให้บุตรสะใภ้ทั้งสองกลับบ้าน เพื่อจะมีครอบครัวใหม่ ส่วนนางนาโอมีก็เดินทางกลับประเทศยูดาห์ แต่รูธไม่ยอมทิ้งนางนาโอมีผู้เป็นแม่ผัวจึงติตามนางนาโอมีมายูดาห์ด้วยความรัก นางรูธพูดกับนางนาโอมีว่า “ขอแม่อย่าวิงวอนให้ฉันจากแม่หรือเลิกติดตามแม่ไปเลย เพราะแม่จะไปไหน ฉันจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่จะเป็นญาติของฉันและพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของฉัน แม่ตายที่ไหนฉันจะตายที่นั่น และจะขอให้ฝังฉันไว้ที่นั่นด้วย ถ้ามีอะไรมาพรากฉันจากแม่นอกจากความตายก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษฉันและให้หนักยิ่ง” (นรธ 1.16-17)

2. นางรูธทุ่มชีวิตเพื่อแม่ผัว (ตามหัวข้อเลือกที่ 2)
รูธเข้าไปอยู่ในเบธเลเฮมในต้นฤดูเกี่ยวข้าวบาร์เลย์ รูธจึงเข้าไปเก็บข้าวตกในนา เพื่อจะเลี้ยงชีพของตนเองและแม่ผัว ตั้งแต่เช้าจนเย็นทุกวัน จนสิ้นฤดูเกี่ยวข้าวบาร์เลย์และข้าวสาลี เผอิญนาที่นางรูธเข้าไปเก็บข้าวตกนั้นเป็นนาของโบอาสคนตระกูลเดียวกับเอลีเบเลค การปรากฏตัวของรูธจึงเป็ฯที่รู้จักของทุกคน ชีวิตและการกระทำของรูธจึงเป็นที่ประทับใจและเป็นที่ยกย่องนับถือของผู้ที่รู้เรื่องของเธอรูธได้รับความเมตตาจากโบอาสให้เก็บข้าวตกในนาของโบอาสจนตลอดฤดูกาล ได้รับการพิทักษ์และคุ้มครองมิให้คนหนุ่มมารบกวน ได้รับอนุญาตให้ดื่มน้ำและร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วย แต่รูธรับประทานและแบ่งอาหารส่วนของตนนั้นนำกลับมาฝากแม่ผัวด้วย พร้อมทั้งข้าวตกที่ฟาดให้เหลือแต่เมล็ดข้าเท่านั้น

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

- ครูถามนักเรียน
นักเรียนรู้สึกประทับใจตอนไหนมากที่สุด เพราะอะไร? ครูเขียนคำตอบลงบนกระดานดำ
นักเรียนชื่นชอบหรือชื่นชมคุณธรรมของนางรูธอะไรบ้าง ทำไม?
- สตรีในยุคปัจจุบันหรือในสังคมที่นักเรียนประทับใจและชท่นชอบมีใครบ้าง? ถ้าไม่มีเพราะอะไร?
- สตรีมีคุณธรรมอะไรที่ทำให้นักเรียนประทับใจ ชื่นชอบ?

สรุป นางรูธเป็นตัวอย่างของสตรีที่มีศักดิ์ศรี เธอมีความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อแม่ของสามี และความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อแม่สามีเป็นสายโยงใยไปสู่ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อพระเป็นเจ้าด้วย ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีนั้นเป็นคุณธรรมประจำใจสตรีในยุคนี้ ที่ต้องมีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อพ่อแม่สามีพี่ป้าน้าอา ฯลฯ

ขั้นที่ 3 คำสอน

1. “เพื่อนคู่ชีวิต” อย่างเอวาได้เป็นสาเหตุทำให้มนุษย์ต้องสูญเสียความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อพระเป็นเจ้า ต่อชายที่เป็นสามีและสืบต่อมาถึงลูกหลานที่เริ่มเข่นฆ่ากัน เพราะแรงริษยาและเกลียดชัง ในโลกปัจจุบันเราก็จะพบเห็นสตรีประเภทนี้อยู่มากมายที่ตระบัดสัตย์ต่อคู่ชีวิตของตน หรือทำลายศักดิ์ศรีของตนเอง โดยทำอะไรก็ได้เพื่อเห็นแก่เงินตัวเดียว เช่น โสเภณี หรือพวกที่หากินโดยการถ่ายแบบ นักเรียนพึงสังวรไว้ให้มั่นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีของสตรี ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสร้างมาให้เป็นคู่ชีวิตของชาย ไม่ใช่ให้มาเป็นเครื่องเล่น เครื่องบำรุงบำเรอ หรือสินค้าสำหรับขายหาเงินหาทอง ฉะนั้นนักเรียนจงหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าวเสีย และอย่าได้ให้การสนับสนุนใด ๆ เลย

2. นางรูธเป็นตัวอย่างของสตรีที่มีศักดิ์ศรี แม้แต่ชื่อของเธอเองก็แปลว่า “คู่ชีวิต” และเธอก็ประพฤติตนสมกับชื่อจริง ๆ สิ่งที่เอวาได้กระทำผิดพลาดไปนั้นนางรูธได้กระทำให้ถูกต้องเสียใหม่ให้เป็นตัวอย่างแก่คนอื่น ๆ ได้ แม้ว่าโดยเนื้อแท้แล้วเธอเป็นคนต่างชาติ คือเป็นชาวโมอับ ไม่ใช่อิสราแอล คำพูดที่เธอกล่าวแก่นางนาโอมีแม่ของสามีที่ว่า “แม่จะไปไหนฉันจะไปด้วย แม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่คือญาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ก็เป็นพระจ้าของฉัน แม่ตายที่ไหนฉันก็จะตายที่นั่น” (รูธ 1.16-17) ฟังแล้วช่างกินใจดีเหลือเกิน แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อแม่ของสามีแบบ “คู่ชีวิต” จริง ๆ ตามปกติเรามักจะได้ยินคำกล่าวถึงความไม่กินเส้นกันระหว่างลูกเขยกับพ่อตา ลูกสะใภ้กับแม่ผัว ทั้งสองคู่นี้มักจะไม่ค่อยลงบทกันจะมีเรื่องทะเลาะบาะแว้งกันอยู่เสมอ แต่ในกรณีของนางรูธกับนางนาโอมี ลูกสะใภ้กับแม่ผัวคู่นี้กลับตรงกันข้ามทีเดียว

3. ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของนางรูธต่อนางนาโอมีแม่ของสามีเป็นสายใยไปสู่ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อพระเป็นเจ้าด้วย “พระเจ้าของแม่ก็เป็นพระเจ้าของฉัน” (รูธ 1.17) เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติต่อพระเป็นเจ้าเอง พระเป็นเจ้าจึงทรงอวยพรให้วงศ์ตระกูลของนางนาโอมีได้เริ่มต้นขึ้นมาใหม่และสืบเชื้อสายไปจนถึงกษัตริย์ดาวิด และจากกษัตริย์ดาวิดไปถึงพระเยซูคริสต์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโอรสของดาวิด ถ้าเราเปิดพระวรสารของนักบุญมัทธิวบทแรกที่กล่าวถึงลำดับวงศ์ตระกูลของพระเยซูคริสต์นั้นเราก็จะพบชื่อของนางรูธเป็นหนึ่งในตระกูลนั้นด้วย “เธอจึงมีฐานะเป็นย่าทวดของกษัตริย์ดาวิด

4. ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีควรจะเป็นคุณธรรมประจำใจสตรีในยุคนี้เป็นต้น ให้สมกับที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างมาให้เป็น “เพื่อนคู่ชีวิต” ของชาย มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับชายทุกอย่าง จะแตกต่างกันก็เฉพาะตรงที่เป็นสตรีเท่านั้น ขอให้ผู้ที่เป็นสตรีจงรักศักดิ์ศรีของตน จงหวงแหนคุณธรรมความซื่อสัตย์และจงรักภักดีเหมือนนางรูธ “นอกเหนือจากความตายแล้ว ถ้ามีอะไรอื่นมาทำให้ฉันพรากจากแม่ละก็ ขอให้พระเป็นเจ้าลงโทษฉันและให้หนักยิ่ง” (รูธ 1.17) พูดย่อ ๆ ก็คือ “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” นั่นเอง สตรีจงซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อพ่อแม่ สามี พี่ ป้า น้า อา ฯลฯขอให้ผู้ที่เป็นชายจงเคารพศักดิ์ศรีของสตรีในตัวของภรรยาคู่ชีวิต ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยทำให้ชายสมบูรณ์ และในตัวสตรีอื่น ๆ เช่น แม่ ญาติพี่น้อง มิตรสหาย ฯลฯ

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก.ข้อควรจำ

1. นางรูธเป็นตัวอย่างของสตรีที่มีศักดิ์ศรี แม้แต่ชื่อของเธอเองก็แปลว่า “คู่ชีวิต” และเธอก็ประพฤติตนสมกับชื่อจริง ๆ สิ่งที่เอวาได้กระทำผิดพลาดไปนั้นนางรูธได้กระทำให้ถูกต้องเสียใหม่ให้เป็นตัวอย่างแก่คนอื่น ๆ ได้

2. ความซ่อสัตย์และความจงรักภักดีของนางรูธต่อนางนาโอมีแม่ของสามีเป็นสายโยงใยไปสู่ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อพระเป็นเจ้าด้วย “พระเจ้าของแม่ก็เป็นพระเจ้าของฉัน” (รูธ 1.17)

3. ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีควรจะเป็นคุณธรรมประจำใจสตรีในยุคนี้ ให้สมกับที่พระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างให้เป็น “เพื่อนคู่ชีวิต” ของชาย มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับชายทุกอย่าง จะแตกต่างก็เฉพาะตรงที่เป็นสตรีเท่านั้น

ข.ปฏิบัติ

ท่องวาจาสำคัญต่อไปนี้
 “แม่จะไปไหนฉันจะไปด้วย มีจะอาศัยอยู่ที่ไหนฉันจะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่คือญาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ก็เป็นพระเจ้าของฉัน แม่ตายที่ไหนฉันก็จะตายที่นั่น” (รูธ 1.16)
 “นอกเหนือจากความตายแล้ว ถ้ามีอะไรอื่นมาทำให้ฉันพรากจากแม่ละก็ขอให้พระเป็นเจ้าลงโทษฉันและให้หนักยิ่ง” (รูธ 1.17)
หรือ วาดภาพของนางรูธที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อแม่สามี เช่น นางรูธในทุ่งนาข้าว ฯลฯ

ค.การบ้าน 


ให้นักเรียนทั้งชายและหญิงกลับไปทำเช่นเดียวกันที่บ้าน คือเป็นผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อพ่อแม่ พี่น้อง