ccp025.jpgบทเรียนที่       1 เดือนพฤศจิกายน 1995
หัวข้อเรื่อง      นักบุญเทเรซา สตรีธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
จุดมุ่งหมาย   
เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักประวัติและวิถีทางดำเนินชีวิตแบบธรรมดาและไม่ธรรมดาของนักบุญเทเรซา และนำไปปฏิบัติตาม

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

ครูถามนักเรียนว่า
 นักเรียนรู้จักนักบุญอะไรบ้าง? (เขียนชื่อบนกระดานดำ)
 นักบุญที่มีลักษณะดังต่อไปนี้คือ นักบุยอะไร?
- วันฉลองตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี
- ในรูปท่านจะอุ้มไม้กางเขนมีดอกกุหลาบประดับโดยรอบ
- เป็นนักบวชที่เรียกกันว่าชีลับ
- เป็นองค์อุปถัมภัมภ์ของมิสซังทั้งหลาย
- มีมีชื่อพ่วงท้ายว่า “แห่งพระเยซูกุมาร”
ฯลฯ

ครูอาจเพิ่มเติมลักษณะอื่น ๆ อีกถ้านักเรียนยังตอบไม่ถูก
เฉลย นักบุญองค์นั้นคือ นักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูกุมาร

ครูเล่าประวัตินักบุญเทเรซาให้นักเรียนฟังอย่างอย่างย่อ ๆ ดังนี้

 เทเรซาเกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 1893 ที่อาลังของประเทศฝรั่งเศส พ่อแม่เป็นคริสตชนดี มีใจศรัทธาร้อนรน มีพี่น้องด้วยกัน 8 คน เป็นหญิงทั้งหมด เทเรซาเป็นคนที่ 9 คนสุดท้อง จึงเป็นที่รักของพ่แม่และพี่ ๆ มาก เพราะเหตุนี้เองเมื่อเล็ก ๆ เทเรซาจึงเป็นคนขี้งอน ดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง

 เทเรซาได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่ออายุได้ 11 ปี และสมัครเข้าอารามชีลับคณะคาร์เมไลท์ เมื่ออายุเพียง 15 ปี โดยอนุญาตพิเศษของพระสังฆราชและพระสันตะปาปา ปีต่อมาก็ได้รับเสื้อเป็นชีลับ และอีกปีหนึ่งถัดมาก็ปฏิญาณตัว

 เทเรซาดำเนินชีวิตในอารามอย่างเรียบง่ายที่สุด เธอเฝ้าเสริมสร้างความศักดิ์สิทธิ์ของเธออย่างง่าย ๆ คือ พยายามทำความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้า เช่น ขจัดขัดเกลานิสัยไม่ดีของเธอ ช่วยเหลือเพื่อชีลีบด้วยกันด้วยความเพียรและอดทนนบนอบเชื่อฟังผู้ใหญ่อย่างเด็ดขาด ฯลฯ เธอทำทุกสิ่งด้วยความรักต่อพระเป็นเจ้า เธอกล่าวว่า “ฉันจะไม่ปฏิบเสธอะไรต่อพระเป็นเจ้าเลย”

 เทเรซามีความรักและห่วงใยเพื่อมนุษย์มาก เธอเคยคิดอยากจะเป็นมิชชันนารีออกไปประกาศศาสนาให้มนุษย์รอดและตามเป็นมรณสักขีเพื่อช่วยพวกเขา แต่เมื่อเธอไม่มีโอการทำเช่นนั้นได้ เธอก็อุทิศคำภาวนาและความยากลำบากให้แทน ซึ่งก็เป็นมรณสักขีอีกแบบหนึ่ง โดยวิธีนี้เธอจึงสามารถช่วยวิญญาณมนุษย์เป็นจำนวนมากให้รอดไปสวรรค์ เธอกล่าวไว้ก่อนจะสิ้นใจว่า เมื่อเธอไปสวรรค์แล้วเธอจะโปรยดอกกุหลาบแห่งความรักลงมายังโลกนี้มาก ๆ

 เทเรซาถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 30 กันยายน 1897 อายุได้เพียง 24 ปี และอีกเพียง 25 ปีต่อมา ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญ และเป็นองค์อุปถัมภ์ของมิสซังทั้งหลาย พระศาสนจักทำฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูกุมารในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

ครูถามนักเรียน
 นักบุญเทเรซาเวลาเป็นเด็กมีนิสัยใจคออย่างไร?
 นักบุญเทเรซาทำอย่างไรจึงเป็นนักบุญได้?

สรุป ตามธรรมดาการเป็นนักบุญได้นั้นทั้งยากทั้งนาน (เปรียบเทียบกับบุญราศีสองคอน เพียงแค่เป็นบุญราศีก็กินเวลาถึง 50 ปีเข้าไปแล้ว) แต่นักบุญเทเรซาเป็นนักบุญได้ทั้งง่ายทั้งเร็ว เพราะเธอเลือกเดินง่าย ๆ ไป การเป็นนักบุญ ทางนั้นเรียกชื่อได้หลายอย่าง เช่น การมีใจซื่อ ๆ แบบเด็ก ๆ การทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ประจำวันด้วยความรัก ฯลฯ

ขั้นที่ 3 คำสอน

1. กว่าจะมาเป็นนักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูกุมาร สครีผู้ยิ่งใหญ่จากสิ่งเล็ก ๆ องค์อุปถัมภ์ของมิสซังทั้งหลายได้ เทเรซาต้องไต่เต้าจากเด็กที่มีนิสัยขี้งอน ดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง คุรแม่ของเธอบันทึกไว้ว่า “แต่สำหรับลิงตัวน้อย (เทเรซา) นี้แม่มองไม่เห็นว่าโตขึ้นจะเป็นอย่างไร แกฉลาดกว่าเซลิน (พี่สาว) แต่โทโสของเธอนั้นผิดจากเซลินเหลือเกิน แถมยังดื้อรั้นจนน่าระอา ถ้าแกลงได้บอกว่าไม่แล้วไม่มีอะไรจะมาขยับเขยื้อนแกได้ แต่ให้แม่จับแกขังไว้ในห้องใต้ดินแกก็ยังยอมนอนที่นั่นตลอดคืนดีกว่าที่จะยอมแพ้.....สำหรับน้องเล็ก (เทเรซา) พอมีอะไรไม่ถูกใจละก็เป็นได้เต้นแร้งเต้นกาจนแม่ต้องดัดนิสัยแกแรง ๆ .....บางทีแกโมโหจนถึงกับสำลักจะตาย อารมณ์แกเปลี่ยนง่ายเหลือเกิน” เทเรซา บอกว่า “ถ้าดิฉันไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่ดีแล้ว ดิฉันคงจะโตขึ้นเป็นคนเหลวแหลก และบางทีอาจจะถึงกับเสียวิญญาณไปเลยก็ได้”

2. สิ่งที่ทำให้เทเรซาชนะตัวเองจนกลายมาเป็นนักบุญได้ก็คือความซื่อแบบเด็ก ๆ ของเธอ ซึ่งเธอมีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยและเก็บรักษาไว้จนโต เมื่อยังเล็กอยู่เธอบอกกับแม่ว่า “หนูอยากให้ตายจัง” แม่แปลกใจถามว่า “ทำไมหนูจึงพูดอย่างนั้น?” เธอตอบว่า “ก็แม่บอกเองไม่ใช่หรือว่าถ้าตายแล้วจะได้ไปสวรรค์?” เธอรู้ตัวเองดีว่า เธอไม่สามารถทำอะไรใหญ่โตเพื่อพระเป็นเจ้าได้ เธอจึงขอเป็นเพียงลูกฟุตบอลเล็ก ๆ ให้พระกุมารเล่น พระองค์จะเตะ จะขว้าง จะโยน จะทิ้ง หรือจะทำอะไรก็ได้ ความซื่อของเขานี้เธอเอามาจากพระวรสารตอนที่พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดถ่อมตนเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ คนนี้ผู้นั้นจะเป็นใหญ่ ในสวรรค์” (มธ 8.4) เธอจึงอยากเป็นใหญ่สวรรค์แบบง่าย ๆ อย่างนี้แหละ

3. แต่การเป็นคนซื่อแบบเด็ก ๆ เสมอไปไม่ใช่ของง่าย เทเรซาเองต้องต่อสู้อย่างหนักโดยเฉพาะกับนิสัยใจคอของเธอเองที่เป็นคนค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ใจร้อน เจ้าอารมณ์ ครั้งหนึ่งเธออยากจะเป็นมรณสักขีโดยออกไปเป็นมิชชันนารีในดินแดนไกลโพ้น แต่เธอได้แต่อยาก เพราะสภาพชีลับอย่างเธอเป็นอุปสรรคไม่ให้เธอทำเช่นนั้นได้ เธอจึงมาเป็นมรณสักขีแบบลับ ๆ คือทนทุกข์ทรมานและตายภายในจิตใจแทน ได้แก่การสู้รบกับนิสัยไม่ดีของเธอทุกวัน และตายต่อน้ำใจของตัวเองวันแล้ววันเล่า ไม่มีใครรู้ใครเห็น แต่ต่อหน้าพระเป็นเจ้าเธอเป็นมรณสักขีจริง ๆ

4. ที่เธอทำเช่นนี้ได้ก็เพราะความรัก เธอเชื่อมั่นว่าสิ่งใดก็ตามแม้เล็กน้อยที่สุด แต่ถ้าทำด้วยความรักแล้วก็กลายเป็นสิ่งใหญ่โตมีค่าต่อหน้าพระเป็นเจ้า เธอจึงทำทุกอย่างด้วยความรัก เธออดทนความไม่สบอารมณ์ต่าง ๆ ด้วยความรัก เธอจึงกลายเป็นนักบุญใหญ่เพราะความรัก และเธอสัญญาว่าเมื่อเธอเข้าสวรรค์แล้วเธอจะโปรยกุหลาบแห่งความรักลงมายังโลกนี้มาก ๆ

5. นักบุญเทเรซาเป็นนักบุญของคนยุคใหม่ที่มีภารกิจประจำวันที่จะต้องทำมากมาย โอกาสที่จะทำอะไรใหญ่โตเพื่อพระเป็นเจ้าคงจะหายาก เราก็ต้องอาศัยทางลัดเหมือนนักบุญเทเรซาคือทำทุกอย่างด้วยความรัก แล้วสิ่งจิปาถะเล็กน้อยเหล่านั้นก็จะกลายเป็นสิ่งใหญ่โตต่อหน้าพระเป็นเจ้า

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. ข้อควรจำ
1. สิ่งที่ทำให้เทเรซาสตรีธรรมดากลายเป็นสตรีไม่ธรรมดาคืออะไร?
ตอบ คือการมีใจซื่อ ๆ เหมือนเด็กเล็ก ๆ เพื่อจะได้เป็นใหญ่ในสวรรค์

2. เทเรซาเอาความคิดเรื่องการมีใจซื่อ ๆ เหมือนเด็กเล็ก ๆ นี้มาจากไหน?
ตอบ เทเรซาเอาความคิดนี้มาจากพระวรสารตอนที่พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดถ่อมตนเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ คนนี้ ผู้นั้นจะเป็นใหญ่ในสวรรค์” (มธ 8.4)

3. นักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูกุมารเป็นองค์อุปถัมภ์ของมิสซังทั้งหลายได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยออกจากอารามชีลับ?
ตอบ นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเป็นองค์อุปถัมภ์ของมิสซังทั้งหลายได้ เพราะเธอถวายคำภาวนาและความยากลำบากในชีวิตประจำวันอุทิศแก่เพื่อนมนุษย์เสมอ

4. เทเรซาสัญญาว่าอย่างไรเมื่อก่อนจะสิ้นใจ?
ตอบ เทเรซาสัญญาว่าเมื่อเธอเข้าสวรรค์แล้วเธอจะโปรยดอกกุหลาบแห่งความรักลงมายังโลกนี้มาก ๆ

ข. กิจกรรม
อุปกรณ์
ภาพเทเรซากำลังโปรยดอกไม้ในพิธีแห่ศีลมหาสนิท
ภาพเทเรซาเตรียมเครื่องบูชาในพิธีมิสซา
ครูแสดงภาพให้นักเรียนดูทีละภาพแล้วให้นักเรียนช่วยกันให้ความหมาย หรือบทสอนจากภาพนั้นและวิธีนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงของนักเรียน

ค. การบ้าน
นำข้อคิดหรือข้อตั้งใจในข้อ ข ไปปฏิบัติ