บทที่ 11
พระนางมารีเป็นมารดาของพระเยซูคริสต์และของเราด้วย

จุดมุ่งหมาย  เพื่อให้นักเรียนน้อมรับพระนางมารีเป็นมารดาด้วยความซาบซึ้งยินดีและเข้าพึ่งพระนางเสมอ

 

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

 ครูนำรูปพระเยซูคริสต์ทรงบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์มาให้นักเรียนดู แล้วถามว่า
 นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้บ้าง? (สิ่งหนึ่งที่นักเรียนเห็นก็คือพระนางมารี)
 เรื่องราวของพระพระนางมารีให้กำเนิดพระเยซูคริสต์เป็นมาอย่างไร?
 ครูเล่าให้นักเรียนฟัง หรือให้นักเรียนช่วยกันเล่าคนละตอนหรือฉาย วีดีโอ ตอนนี้ให้นักเรียนดู

กำเนิดพระเยซูคริสต์
        พระนางมารีแต่งงานกับยอแซฟ ทั้งสองถือศีลพรหมจรรย์คือเป็สามีภรรยากันแต่นามเท่านั้น ต่อมาเทวดาคาเบรียลมาแจ้งข่าวแก่พระนางว่า  พระเป็นเจ้าทรงโปรดปรานพระนาง ทรงเลือกพระนางให้เป็นพระมารดาของพระผู้ไถ่ พระนางก็ตอบตกลง พระบุตรจึงเสด็จมาเกิดในครรภ์ของพระมารดาด้วยฤทธิ์ของพระจิต ต่อมายอแซฟได้พาพระนางมารีไปจดทะเบียนสำมะโนครัวที่เบธเลแฮม  พอดีถึงกำหนดคลอด ที่เบธเลแฮมไม่มีโรงแรมว่างทั้งสองจึงไปพักแรมที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ ตกเวลากลางคืน พระนางมารีก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายองค์น้อย พระนางเอาผ้าพันกายให้และวางนอนบนรางหญ้า เทวดาก็ประจักษ์มานมัสการพระองค์ และไปจ้างข่าวแก่ชุมพาบาลให้มานมัสการพระองค์ด้วย

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

ครูถามนักเรียนว่า
 - พระเยซูคริสต์กำเนิดเมื่อไร? ที่ไหน? ทำไมจึงไปบังเกิดที่นั้น?
 - ใครเป็นผู้ให้กำเนิดพระเยซูคริสต์?
 - สตรีที่ให้กำเนิดบุตรเราเรียกว่าอย่างไร?
สรุป พระนางมารีให้กำเนิดพระเยซูคริสต์ พระนางจึงเป็นมารดาของพระเยซูคริสต์ ที่เราเรียกพระนางว่า แม่พระ ก็เพราะพระนางเป็นแม่ของพระเยซูคริสต์นั่นเอง

ขั้นที่ 3 คำสอน

 1. แม่พระรักพระเยซูคริสต์มาก ทำทุกอย่างเพื่อพระเยซูคริสต์นับตั้งแต่แรกที่พระองค์บังเกิดมา คือ
  - หาที่พักพิงเท่าที่จะหาได้ในเวลานั้น คือ ถ้ำเลี้ยงสัตว์
  - เอาผ้าพันกายเพื่อให้อบอุ่นคลายหนาว
  - ให้นอนในรางหญ้าแทนเมาะหรือเปล
  - เลี้ยงพระเยซูคริสต์ด้วยน้ำนมมารดา

 2. แม่พระยังพาพระเยซูคริสต์หนีภัยไปอยู่ประเทศอียิปต์เลี้ยงดูพระองค์จนเติบโตใหญ่ที่นาซาแร็ธ และเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงออกเทศนา แม่พระก็คอยติดตามช่วยเหลือ ให้กำลังใจอยู่เสมอ และสุดท้ายแม่พระก็ได้ยืนอยู่แทบเชิงกางเขนของพระเยซูคริสต์ ได้เห็นพระองค์สิ้นพระชนม์อย่างสุดแสนทรมาน ได้สวมกอดพระศพของพระเยซูคริสต์เป็นครั้งสุดท้าย เหมือนได้สวมกอดครั้งแรกเมื่อพระองค์บังเกิดมา

 3. ณ แทบเชิงกางเขนนี้แหละ พระเยซูคริสต์ได้มอบแม่พระให้เป็นแม่ของเราทุกคน พระองค์ตรัสกับแม่พระว่า “นี่แหละลูกของแม่” และตรัสกับยอห์นอัครสาวกซึ่งเป็นผู้แทนของเราว่า “นี่แหละแม่ของเจ้า” (ยน.19,26) แม่พระก็กลายเป็นแม่ของเรานับแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา

 4. แม่พระรัก และทำทุกอย่างเพื่อพระเยซูคริสต์อย่างไร บัดนี้แม่พระก็รักและทำทุกอย่างเพื่อเราอย่างนั้น เพราะแม่พระเป็นแม่ของเรา  สิ่งที่แม่กระทำเพื่อเราในขณะนี้ก็คือ สวดอ้อนวอนพระเป็นเจ้าเพื่อเรา นำพระพรจากพระเป็นเจ้ามาแจกจ่ายให้เรา คอยปกป้องคุ้มภัยทั้งทางกายและทางใจให้เรา คอยแนะนำสั่งสอนสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรปฏิบัติแก่เรา เราจึงควรรัก ศรัทธาและเข้ามาพึ่งพาพระนางให้มาก ๆ ความรักและศรัทธาต่อแม่พระนี้เป็นสิทธิพิเศษของเราคริสต์ชนคาทอลิกทีเดียว

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. จดเนื้อหาลงในสมุด
1.ใครเป็นมารดาของพระเยซูคริสต์?
 ตอบ  พระนางมารีเป็นมารดาของพระเยซูคริสต์
2. เหตุใดพระนางมารีจึงเป็นมารดาของเราด้วย?
 ตอบ  เพราะพระเยซูคริสต์ทรงมองพระนางให้เป็นมารดาของเราจากไม้กางเขน
3. เรามีหน้าที่ต่อพระนางมารีมารดาของเราอย่างไร?
 ตอบ  เราต้องรัก ศรัทธา และพึ่งพาพระนางให้มาก ๆ และประพฤติตนเป็นลูกที่ดีของพระนาง

ข. กิจกรรม
ร้องเพลง “ใครรักแม่” (ปรารถนา หน้า 217)
พานักเรียนไปชุมนุมหน้ารูปแม่พระ สวดและขับร้องเพลงสรรเสริญ อาจจะมีช่อดอกไม้ถวายด้วยก็ได้

ใครรักเท่าแม่

1. แม่รักลูกยิ่งสิ่งใด   ลูกวอนขออะไรแม่ให้ดังปรารถนา
 ชีวิตพลีได้ทุกเวลา  ใครเล่าหนารักเราเท่าแม่รักเอย

2. โอ้แม่มารียอดสตรีเหนือใครทั้งปวง
 พระแม่ทรงเป็นห่วงเหล่าพวกลูกที่อ่อนแอ
 แม้มีศัตรูร้ายจู่โจมคอยรักแก
ไม่ผันแปรโอ้พระแม่คอยช่วยเรา

3. โอ้แม่มารีราชินีของชาวคริสตัง
 พระแม่เป็นพลังหนุนนำให้ลูกทำดี
 จึงขอสรรเสริญเทิดเทินพระแม่มารี
 ลูกยินดีฉลองพระนามในวันนี้เอย

4. แม่ขอให้ลูกอย่าทำความชั่ว บาปเมามัวอย่าได้กลัวสู้มัน
 อย่าหนีจงสู้สุดชีวัน  แม่เป็นประกันบาปมันจะพ่ายแพ้เอย