6.  การทำสมาธิ

1. “ประกายไฟของพระเจ้า”
- ท่าเตรียม ให้สมาชิกนั่งหลับตา แบบผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็ง
- ผู้นำกล่าวนำ “ให้จินตนาการว่า เธอกำลังนั่งอยู่ต่อหน้าเปลวไฟใหญ่ดวงใหญ่ของพระเจ้า เปลวไฟนั้นส่องแสงสว่างโชติช่วงอย่างมาก ขณะนั้นเองมีสะเก็ดไฟดวงหนึ่งแตกตัวออกมาและเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอ ให้เธอหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้เปลวไฟของพระเจ้าอยู่ในใจของเธอให้นานแสนนาน ให้เปลวไฟของพระเจ้าทำงานในตัวของเธอ ให้เปลวไฟของพระเจ้านั้นใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น ใหญ่จนเต็มหัวใจของเธอ ไฟนั้นยังคงร้อนแรง ร้อนจนเผาผลาญนิสัยที่ไม่ดีต่างๆของเธอ เผาผลาญความเห็นแก่ตัว การไม่ยอมแบ่งของกิน หรือของใช้ให้เพื่อน เผาความเกเร ความโมโห ความเกียจคร้าน...........(ให้ผู้นำพูดเรื่องที่สมาชิกมักจะบกพร่องเพื่อจะได้ปรับปรุงตน)......เปลวไฟยังคงร้อนแรงอยู่ เธอต้องการให้เปลวไฟของพระเจ้าเผาผลาญอะไรที่ไม่ดีในใจของเธอบ้าง.......ให้หยุดนิ่ง ปล่อยให้ไฟนั้นเผามันเสียให้หมดจากใจของเธอ....ขณะนี้เธอมีหัวใจที่สะอาดแล้ว...เปลวไฟค่อยหรี่ลง... หรี่ลง จนดับสนิท...เธอรู้สึกสบายตัวสบายใจมากทีเดียว....เธอมีความสุขมาก.... ให้เธอคิดดูซิว่า เธอมีอะไรจะบอกกับพระเจ้าบ้างไหม....ให้เธอลืมตา แล้วเขียนสิ่งที่เธออยากจะบอกพระเจ้าลงในสมุดของเธอ”

2. “สำนึกถึงศีรษะจรดปลายเท้า”
- เหมาะสำหรับผู้ที่เหนื่อยกับการทำงาน หรือเครียด
- ให้สมาชิกนั่งในท่าสมาธิ แบบผ่อนคลาย
- ให้เพ่งจิตทั้งหมดไปที่หน้าผากของตนเอง หน้าผากเท่านั้น ไม่ต้องคิดถึงสิ่งอื่น 5 วินาที
- จากนั้นให้เลื่อนไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย เช่น ตา จมูก หู ปาก แขน มือ นิ้วมือซ้าย นิ้วมือข้างขวา ขาซ้าย ขาขวา จนกระทั่งปลายนิ้วเท้าของเรา
- ให้ผู้นำสังเกตสมาชิกตลอดเวลาขณะกล่าวนำ อย่าให้สั้นหรือยาวเกินไป ควรปรับให้เหมาะสม

3. “สำนึกในเสียง”
- เป็นการฝึกเด็กให้มีสมาธิโดยไม่ต้องใช้เสียงดนตรี
- ให้สมาชิกนั่งในท่าสมาธิ แบบผ่อนคลาย หลับตา
- ให้ทุกคนใส่ใจกับเสียงทุกเสียงรอบตัวของของเขา พยายามจดจำทุกเสียงที่ได้ยินหรือเข้ามาสัมผัสหูของเขา
- อย่าใส่ใจกับต้นกำเนิดของเสียงหรือพยายามคิดว่าเสียงนั้นมาจากไหน ให้มีสมาธิกับเสียงนั้นๆเท่านั้น
- ให้ใส่ใจกับเสียงที่รู้สึกว่าอยู่ไกลที่สุดก่อน ว่าเสียงอะไรที่อยู่ไกลที่สุด ถัดมาเป็นเสียงอะไร เรื่อยมาเป็นเสียงอะไร และที่สุดเสียงอะไรเป็นเสียงที่ใกล้ตัวของเขามากที่สุด
- กิจกรรมนี้จะช่วยสร้างเด็กๆของเราให้มีสมาธิและรักความเงียบ

4. “สำนึกในลมหายใจ”
- ให้สมาชิก นั่งในท่าสมาธิ แบบผ่อนคลาย หลับตา
- ให้หายใจเข้าออกแบบยาวๆช้าๆ สม่ำเสมอ โดยเมื่อหายใจเข้าให้พูดในใจว่า “พระเจ้าเสด็จมา” เมื่อหายใจออกพูดในใจว่า “ความชั่วออกไป”
- หรือหายใจเข้า พูดในใจว่า “เย” หายใจออกพูดในใจว่า “ซู”

5. “มา รา นา ธา”
- ให้สมาชิกนั่งในท่าทำสมาธิ แบบผ่อนคลาย หลับตา
- ให้สมาชิกควบคุมลมหายใจเข้า-ออกให้สม่ำเสมอ พลางกล่าวว่า “มารานาธา” ซึ่งแปลว่า “เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า”

6. “ขอบคุณพระเจ้า”
- ให้สมาชิกนึกถึง สิ่งของที่เขามีอยู่ในตัวของเขา เสื้อผ้า นาฬิกา ปากกา สมุด ขนม ฯลฯ ของเหล่านี้ใครเป็นคนซื้อให้ เมื่อคิดถึงคนที่ซื้อให้แล้ว เขามีอะไรจะบอกกับพระเจ้าหรือไม่ หรือมีอะไรจะขอบคุณพระเจ้าบ้าง

7. “มหัศจรรย์ธรรมชาติ”
- เปิดเพลงบรรเลงสร้างบรรยากาศ
- ให้สมาชิกนั่งเงียบๆ คิดถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ความสวยงามของดอกไม้ สีสันของผีเสื้อ ความใหญ่ของขุนเขา ความลึกของทะเล ความสวยงามของท้องฟ้า ท้องทะเล
- ให้สมาชิกอยู่เงียบๆกับสิ่งสวยงามน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติเหล่านี้
- เมื่อได้เวลาพอสมควรกับวัยของเด็กแล้ว ให้สมาชิกเขียนคำภาวนา โดยบอกว่า “หนูมีอะไรจะบอกกับพระเจ้าบ้าง ให้เขียนหรือแสดงออกด้วยการวาดเป็นภาพก็ได้”

8.  “การฝึกเด็กให้มีสมาธิ”
  “กระดิ่ง”
- ผู้นำส่งกระดิ่ง(ที่ใช้ในวัดก็ได้)ให้เด็กคนที่หนึ่ง โดยอย่าให้เกิดเสียง เมื่อเด็กรับไว้ก็อย่าให้เกิดเสียง แล้วส่งต่อให้เพื่อนคนที่สอง สาม สี่ โดยอย่างให้มีเสียง ใครทำให้เกิดเสียง จะต้องแก้ตัวใหม่โดยไปต่อแถวหลังสุดเพื่อรอรับกระดิ่งที่จะส่งมาต่อไป
- ผู้นำอาจจะให้เด็กถือกระดิ่งแล้วเดินไปรอบๆห้องตามระยะทางที่ผู้นำกำหนด แล้วส่งต่อให้คนที่สองทำเช่นเดียวกัน จนครบทุกคน

 “น้ำ”
- เช่นเดียวกับการใช้กระดิ่ง ผู้นำอาจจะใช้แก้วน้ำที่ใส่น้ำจนเต็มถึงขอบแก้วแล้วให้เด็กถือเดินไป โดยอย่าให้น้ำหก ขณะทำให้ทุกคนเงียบ

 “หนังสือ”
- ให้วางหนังสือหรือสมุดไว้บนศีรษะของเด็กๆ แล้วให้เดินไปรอบๆห้องโดยอย่าให้สมุดหล่นจากศีรษะ อย่าลืม ขณะทำให้ทุกคนเงียบ

 “เดินตามรอยเท้า”
- ให้เด็กคนหนึ่งเดินนำหน้า อย่างช้าๆ ให้เด็กคนที่สองเดินตามรอยเท้าของคนแรกอย่างเงียบ เด็กคนที่สามเดินตามคนที่สอง เดินตามกันไปเรื่อยๆ โดยใช้ความเงียบและการสังเกต อย่าให้พลาด