ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

คำสอนเรื่องพระวาจาของพระเจ้าคำสอนเรื่องพระวาจาของพระเจ้า
           ลูกรัก  พระวาจาของพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญมิใช่น้อย!  พระวาจาแรกของพระเยซูเจ้าที่ตรัสแก่อัครสาวก คือ “จงไปและสอน”... ซึ่งแสดงว่าคำสอนของพระองค์อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง

           ลูกรัก  พระศาสนาของเราสอนอะไรบ้าง?  พระวาจาที่เราได้ฟังคือสิ่งที่ทำให้เราเกลียดกลัวบาปใช่ไหม?  คือสิ่งที่ทำให้เราเจริญชีวิตในคุณธรรมที่ดีงาม และดลใจเราให้ปรารถนาสวรรค์ใช่หรือไม่?  พระวาจาคือสิ่งที่สอนผู้เป็นพ่อและแม่ให้ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนลูกและเพื่อให้ลูกทำหน้าที่ต่อพ่อแม่มิใช่หรือ? 


           ลูกรัก ทำไมผู้คนจึงทำเป็นคนตาบอดและไม่เข้าใจพระวาจาของพระเจ้ากัน?   เป็นเพราะพวกเขาใส่ใจพระวาจาของพระเจ้ากันน้อยมาก   มีบางคนไม่สนใจแม้แต่การสวดบทข้าแต่พระบิดาและวันทามารีอาเพื่อขอพระหรรษทานจากพระเจ้าในการฟังพระวาจาของพระองค์ด้วยความตั้งใจ และนำพระวาจามาเป็นประโยชน์ในการเจริญชีวิตของตน   พ่อ(เจ้าวัดแห่งอารส์)เชื่อว่าผู้ที่ไม่ฟังพระวาจาที่ควรฟัง จะไม่ได้รับความรอด เพราะเขาจะไม่รู้จักวิธีการทำให้วิญญาณรอด แต่ผู้ที่ได้รับการศึกษาพระวาจาที่ดีจะรู้วิธีเอาวิญญาณรอดเสมอ  แม้ว่าต่อมาอาจจะหลงผิดก็ตาม แต่ก็ยังมีความหวังว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะกลับมาหาพระเจ้าผู้พระทัยดี  ซึ่งอาจจะเป็นตอนชั่วโมงสุดท้ายของชีวิตก็ได้ แต่ผู้ที่ไม่เคยรู้จักพระวาจาก็เปรียบได้กับผู้ป่วยขั้นโคม่าที่ไม่รู้สึกตัวแล้ว  เขาไม่รู้จักทั้งเรื่องโทษหนักของการทำบาปหรือเรื่องคุณค่าของคุณธรรม  ดังนั้นจึงทำบาปแล้วทำบาปอีกเช่นเดียวกับการลากผ้าขี้ริ้วไปตามโคลนตม

           ลูกรัก พระเยซูเจ้าทรงให้ความสำคัญกับพระวาจาของพระเป็นอย่างมาก  พระองค์ตรัสตอบหญิงที่ร้องว่า “หญิงที่ได้ให้กำเนิดและให้นมเลี้ยงท่าน ช่างเป็นสุขจริง!   แต่พระองค์ตรัสตอบว่า คนทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก!” (ลก 11:27-28)  จะเห็นว่าพระเยซูเจ้าผู้เป็นองค์ความจริงทรงให้คุณค่าของพระวาจาไม่น้อยกว่าพระกายของพระองค์.   พ่อไม่ทราบว่าการไม่ตั้งใจร่วมมิสซากับการไม่ตั้งใจฟังพระวาจาอย่างไหนจะผิดมากกว่ากัน  เพราะระหว่างพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ หากเราไม่ตั้งใจก็เท่ากับเราสูญเสียบุญกุศลจากการสิ้นพระชนม์และพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า  ส่วนการไม่ตั้งใจฟังพระวาจา เราสูญเสียพระวาจาของพระองค์ซึ่งก็คือการสูญเสียพระองค์เอง.   นักบุญออกุสติน (354:430) กล่าวว่าการไม่ตั้งใจฟังพระวาจาเป็นการทำผิดเหมือนกับการเอาผอบใส่ศีลที่เสกแล้วไปเหยียบย่ำ

            ลูกรัก  เวลาเราขาดวัดวันอาทิตย์ เราอาจไม่แน่ใจว่าเป็นการทำบาปหนัก ยกเว้นเมื่อตัวเราเองเป็นต้นเหตุของการไม่ไปวัด แต่การไม่ฟังพระวาจา เป็นความผิดของตัวเราเองโดยตรงที่ปฏิเสธ  เวลานี้ลูกอาจจะพูดว่ามิใช่ความผิดมากนักก็ได้  แต่ในวันพิพากษาประมวลพร้อม  เป็นวันที่พวกลูกทุกคนจะมานั่งอยู่รอบตัวพ่อและเมื่อพระถามลูกว่า “ขอบัญชีเรื่องพระวาจาและเรื่องการเรียนคำสอนที่เคยเรียนและเคยฟังมา”  ตอนนั้นพวกลูกอาจจะคิดไม่เหมือนกับตอนนี้ก็ได้

             ลูกรัก คนที่หนีเรียนคำสอน ออกไปเที่ยวเตร่และหัวเราะเยาะคนที่เรียนและคิดว่าตนเป็นคนฉลาดรู้จักคำสอนแล้ว... ลูกคิดว่าจะหนีพ้นไหมในวันนั้น?  ไม่พ้นแน่  พระเจ้าทรงมีวิธีจัดการของพระองค์ที่แตกต่างไปจากวิธีการของพ่อ  เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้เป็นพ่อแม่ไม่เรียนคำสอนแต่ก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนลูก  และพวกเขาจะสอนลูกได้อย่างไรในเมื่อตัวเองไม่เคยเรียน... การกระทำเช่นนี้จะฉุดเขาตรงดิ่งลงนรกอย่างน่าเศร้า!
ลูกรัก พ่อได้สังเกตว่า บ่อยครั้งคนที่มาฟังคำสอนนั่งหลับระหว่างเรียน... ลูกอาจแก้ตัวว่า ลูกง่วงนอนมาก... แต่ถ้าพ่อเอาขลุ่ยมาเป่าเพลงให้ฟัง พ่อคิดว่าคงไม่มีใครคิดจะนอนกัน ทุกคนจะตื่นตัวและตั้งใจฟังกัน  ลูกรัก  ลูกตั้งใจฟังเมื่อลูกชอบผู้สอน แต่ถ้าไม่ชอบ ลูกก็จะก่อกวนระหว่างการเรียน... เราต้องไม่คำนึงถึงตัวผู้สอนเป็นหลัก เพราะสิ่งที่เราควรตั้งใจฟังมิใช่ตัวบุคคล  ฉะนั้นไม่ว่าพระสงฆ์ผู้สอนจะเป็นคนอย่างไร ท่านก็ยังคงเป็นเครื่องมือของพระในการสอนพระวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า   เวลาที่ลูกเทน้ำผ่านกรวยลูกคงไม่สนใจว่ากรวยทำด้วยทองคำหรือโลหะอื่น แต่ถ้า ของเหลวที่เทนั้นเป็นสิ่งที่ดี  ของเหลวนั้นก็ยังคงดีอยู่ไม่ว่าจะเทผ่านกรวยที่ทำด้วยอะไร

              บางคนฟังคำสอนแล้วก็ออกไปพูดล้อเลียนกันเช่น “พระสงฆ์สอนแต่สิ่งที่ท่านชอบ”.   ลูกรัก มิใช่เช่นนั้นเลย  พระสงฆ์จะไม่พูดตามใจ  พระสงฆ์พูดสิ่งที่มีอยู่ในพระวรสาร  พระสงฆ์รุ่นก่อนพ่อก็ได้พูดสิ่งที่พ่อพูดอยู่นี้ และพระสงฆ์ในอนาคตก็จะพูดเหมือนกัน  หากพระสงฆ์พูดสิ่งที่ไม่เป็นจริง ไม่นานพระสังฆราชผู้ปกครองก็จะสั่งห้ามมิให้พระสงฆ์องค์นั้นเทศน์สอนต่อ  

             ลูกรัก พ่อจะยกตัวอย่างถึงผลของการไม่เชื่อสิ่งที่พระสงฆ์สอน   มีทหาร 2 คนเดินผ่านบริเวณที่มีมิชชันนารีทำงาน  ทหารคนหนึ่งชวนเพื่อนเข้าไปฟังสิ่งที่พระสงฆ์กำลังเทศน์อยู่ในวัด  เพื่อนตกลงตามและทั้งสองก็ได้เข้าไปฟังเรื่องนรกที่พระสงฆ์ผู้นั้นกำลังเทศน์  หลังการเทศน์ ทหารคนที่เลวน้อยกว่าถามเพื่อนว่า “แกเชื่อทุกสิ่งที่พระสงฆ์เทศน์ไหม?”  เพื่อนก็ตอบว่า “ไม่เชื่อหรอก  เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น พระสงฆ์เทศน์เช่นนั้นเพื่อให้คนกลัว”.   เพื่อนคนแรกจึงพูดขึ้นบ้างว่า “แต่ฉันเชื่อนะ และเพื่อเป็นการพิสูจน์  ฉันจะเลิกเป็นทหารและจะสมัครเข้าอาราม”--- “ก็ตามใจแก  ฉันไปต่อคนเดียวก็ได้”  และขณะที่ทหารคนที่พูดสุดท้ายนี้เดินทางต่อไปได้ไม่นาน เขาก็เกิดป่วยหนักและเสียชีวิต  ส่วนคนที่เข้าอารามเมื่อได้ข่าวการตายของเพื่อนก็สวดขอให้พระโปรดให้แลเห็นสภาพวิญญาณของเพื่อนที่เสียชีวิต.   วันหนึ่งขณะที่กำลังสวดอยู่ เพื่อนที่ตายไปได้ปรากฏตัวให้เห็น  คนที่เข้าอารามจึงถามว่า “ตอนนี้แกอยู่ไหนหรือ?” --- “ในนรก ฉันตกนรกแล้ว”---“แย่จัง ตอนนี้แกเชื่อสิ่งที่มิชชันนารีเทศน์สอนในวันนั้นหรือยัง?” – “เชื่อสิ  แต่มิชชันนารีคนนั้นผิดไปอย่างหนึ่งคือ ท่านไม่ได้บอกว่า  การตกนรกต้องทรมานมากขนาดไหน”

            ลูกรัก บ่อยครั้งพ่อคิดว่าคริสตังที่เสียวิญญาณไปเป็นเพราะไม่รู้จักคำสอนดี  เช่น มีชายคนหนึ่งมีงานประจำที่ต้องทำทุกวัน  ชายคนนี้มีความตั้งใจจะใช้โทษบาปอย่างแรงกล้าด้วยการสวดภาวนาค่อนคืน  ถ้าเขาเรียนคำสอนมาดี เขาจะพูดว่า “ฉันจะไปสวดค่อนคืนไม่ได้ มิฉะนั้นวันรุ่งขึ้นฉันจะทำงานได้ไม่ดี  ฉันคงจะง่วงนอนและหงุดหงิด และคงจะอ่อนเพลียตลอดวัน  ผลงานคงไม่ได้ดีถึงครึ่งหนึ่งของการทำงานตามปกติ ฉะนั้นฉันต้องไม่สวดภาวนาค่อนคืน”

           พ่อจะยกอีกตัวอย่างหนึ่ง  คนงานคนหนึ่งอยากจะอดอาหาร แต่เขามีหน้าที่ขุดและพรวนดินทั้งวัน  ถ้าคนงานผู้นี้รู้จักคำสอนดีก็จะต้องคิดว่า “แต่ถ้าฉันอดอาหาร  ฉันก็จะทำงานได้ไม่เป็นที่พอใจของนาย”  สิ่งที่คนงานคนนั้นควรทำคือ เขาจะกินอาหารเช้า และหาวิธีอื่นทำพลีกรรม  ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเสมอคือ ทำสิ่งที่จะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าได้ดีที่สุด

            เด็กคนหนึ่งทราบว่ามีคนกำลังเดือดร้อนอยู่  จึงหยิบของใช้ในบ้านไปให้  ที่จริงเด็กคนนั้นควรขออนุญาตจากพ่อแม่เสียก่อนที่จะทำเช่นนั้น  และหากพ่อแม่ปฏิเสธ เด็กคนนั้นก็ควรสวดภาวนาขอให้มีเศรษฐีผ่านไปและทำทานสิ่งที่คนนั้นขาดอยู่   ดังนั้นคนที่เรียนคำสอนมาดีจะต้องปฏิบัติตามหลัก 2 ข้อเสมอ คือการให้คำแนะนำที่ดีและการเชื่อฟังผู้ใหญ่

**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
แปลจาก
http://saints.sqpn.com/stj18007.htm

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

นักศึกษาศูนย์คำสอนเชียงใหม่ มาศึกษาดูงาน
🎊ภราดาสารพัน แคเซอ ผู้รับผิดชอบศูนย์คำสอนเชียงใหม่ ได้นำนักศึกษา จำนวน 8 คน ผู้ดูแล 1 คน...
ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3
👟"การจาริกแห่งความหวัง"ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3❤️วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี...
การจาริกแห่งความหวัง การเดินทางแสวงบุญและทำกิจเมตตาผู้เรียนคำสอนรุ่นที่ 8/2024
💜การจาริกแห่งความหวัง การเดินทางแสวงบุญและทำกิจเมตตาผู้เรียนคำสอนรุ่นที่ 8/2024 ของอาสนวิหารแม่พระบังเกิด วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2025 💜การจาริกแสวงบุญครั้งนี้มีจุดปนะสงค์เพื่อเตรียมตัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน โดยมีผู้ร่วมจาริกแสวงบุญครั้งนี้...

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 235 เราไปสารภาพบาปได้หรือไม่ แม้มิได้กระทำบาปหนัก ?
📍เราไปสารภาพบาปได้หรือไม่ แม้มิได้กระทำบาปหนัก ?#YOUCAT 235 บอกเราว่า..☂การสารภาพบาปเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่แห่งการเยียวยารักษา...
Youcat 426 📍 พระบัญญัติประการที่เจ็ดกำหนดไว้อย่างไรในเรื่อง
พระบัญญัติประการที่เจ็ดกำหนดไว้อย่างไรในเรื่อง "อย่าลักขโมย" (อพย. 20:15) YOUCAT...
Youcat 230 📍การใช้โทษบาป คืออะไร ?
📍การใช้โทษบาป คืออะไร ?#YOUCAT 230 บอกเราว่า...

พระวาจานำชีวิต

เอาชนะความโกรธและความเคียดแค้นใจ
พระวาจาพระเจ้าที่ให้แนวทางแก่เรา เพื่อช่วยเราเอาชนะความโกรธและความเคียดแค้นใจ แม้จะวุ่นวายใจ ก็จงอย่าทำบาป จงคิดคำนึงขณะที่นอนบนเตียงอย่างเงียบ...
พระเจ้าทรงอดทนและรอคอยเรา
พระเจ้าทรงอดทน รอคอยให้ชีวิตเราเกิดผลในฐานะคนของพระคริสต์ ให้พระวาจาพระเจ้ามาเปลี่ยนแปลงเราให้เกิดผลดีเหมาะสมกับที่พระเจ้ารอคอยเรา อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย...
พระคริสตเจ้าทรงทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์
พระเจ้าทรงทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ จากความอ่อนแอ ความผิดพลาด และความบาป ให้พระวาจาพระเจ้าเป็นกำลังใจและแนวทางแก่เรา...

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC222 เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์
พื้นที่สำหรับการสอนคำสอน เป็นที่ที่จัดให้ชุมชนแสดงออกถึงวิธีการประกาศข่าวดีของตนในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบัน เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดังนั้น จึงจำเป็นที่สภาพแวดล้อมดังกล่าวจะได้รับการต้อนรับและได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแห่งความคุ้นเคยที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสงบในกิจกรรมของชุมชนสภาพแวดล้อมที่แพร่หลายมากที่มีลวดลายหลังจากอาคารเรียนไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเผยแพร่กิจกรรมทางคำสอน...
DC220  การปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างผู้คนทำให้กลุ่มเป็นสถานที่ที่มีการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารที่ลึกซึ้งเบ่งบาน
การปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างผู้คนทำให้กลุ่มเป็นสถานที่ที่มีการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารที่ลึกซึ้งเบ่งบานเมื่อสิ่งนี้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพกลุ่มจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในการสนับสนุนการเติบโตของสมาชิกของตน ในความเป็นจริงของพระศาสนจักรกลุ่มได้รับการทำให้มีชีวิตชีวาโดยพระจิตเจ้าผู้สร้างสรรค์แท้จริงของความก้าวหน้าในความเชื่อทั้งหมด อย่างไรก็ตามการเปิดกว้างต่อพระหรรษทานนี้ไม่สามารถลดทอนการฝึกฝนในการเรียนการสอนได้ซึ่งมองว่ากลุ่มในฐานะความจริงทางสังคมประกอบด้วยพลังและกฎแห่งการเติบโตของตนเอง ความสามารถในการมีส่วนร่วมเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ สามารถเป็นวิธีการที่ถูกต้องเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกของเอกลักษณ์และความเป็นสมาชิกเพื่ออำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของสมาชิกแต่ละคนส่งเสริมกระบวนการของการทำให้เกิดความเชื่อภายในและจัดการกับความตึงเครียดระหว่างบุคคลในเชิงบวก...

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหา Update ล่าสุด

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์

สถิติการเยี่ยมชม

0.png4.png0.png2.png7.png7.png1.png
วันนี้2588
เมื่อวานนี้3620
สัปดาห์นี้2588
เดือนนี้95975
ทั้งหมด402771

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

15
Online

วันจันทร์, 31 มีนาคม 2568 18:55