ประวัติการก่อตั้งศูนย์คริสตศาสนธรรม(ศูนย์คำสอน) ราชบุรี

      ศูนย์คริสตศาสนธรรมราชบุรี ได้ก่อตั้งขึ้นโดยพระสังฆราชยอแซฟเอก ทับปิง เมื่อปี 1976/2519 โดยให้ชื่อว่า “ศูนย์คำสอนสังฆมณฑลราชบุรี” และได้แต่งตั้งผู้อำนวยการศูนย์คำสอนคนแรกคือ คุณพ่อสมบูรณ์ แสงประสิทธิ์ มีซิสเตอร์บุญญา อุ่นจตุรพร เป็นเลขานุการ โดยสำนักงานศูนย์คำสอนตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ณ บ้านพักพระสงฆ์ (หลังเก่า) เลขที่ 80 ถ.คฑาธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000

       คุณพ่อสมบูรณ์ แสงประสิทธิ์ มีความสนใจงานด้านคำสอนสมัยใหม่และได้ศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง คุณพ่อได้ไปศึกษาต่อที่สถาบันอบรมงานอภิบาลสำหรับเอเชียตะวันออก (East Asian Pastoral Institute – E.A.P.I) ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อกลับมาคุณพ่อจึงได้ริเริ่มโครงการผลิตแบบเรียนคำสอนซีซีพี (Christian Community Program - CCP) โดยเริ่มต้นเขียนแบบเรียนเดือนละ 2 โครงการและส่งไปบริการทุกวัด ทุกโรงเรียนและทุกสถาบันที่ต้องการ เพื่อใช้อบรมนักเรียน เยาวชนและผู้ใหญ่เพื่อเสริมสร้างชีวิตคริสตชนให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการแบบเรียนคำสอนซีซีพีนี้เป็นผลงานชิ้นสำคัญและดำเนินการอยู่ควบคู่กับศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรีมาจนถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลา 40 ปีแล้ว เพื่อเสริมสร้างความศรัทธาให้กับผู้จัดทำและผู้ที่นำไปใช้สอนต่อไป

      ในช่วงที่ คุณพ่อสมบูรณ์ เป็นผู้อำนวยการฯ ได้สนับสนุนและส่งเสริมฆราวาสให้ไปศึกษาต่อด้านคริสตศาสนาในสถาบันคำสอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ คือ ศูนย์อบรมคริสตศาสน-ธรรมประเทศไทย (National Catechetical Center - NCC) 1 คน คือ นางสาวมาลี วงศ์ขจรกรกิจ และวิทยาลัยมารดาพระศาสนจักร (Master Ecclesiae - Castel Gandolfo) ประเทศอิตาลี จำนวน 6 คน คือ 1. นางสาวราตรี ช้อยเครือ 2. นางสาวบังอร มัจฉาเดช 3. นางสาวอรนุช ถนอมชาติ 4. นางสาวจารุพรรณ เพ็ชรพราว 5. นางสาวขนิษฐา ฉัตรบรรยงค์ 6. นาย(คุณพ่อ)ปรีชา ยั่งยืน

      คุณพ่อสมบูรณ์ ได้เริ่มโครงการคำสอนเคลื่อนที่ (Mobile Team) ในปี 1984 โดยมีจุดประสงค์เพื่อออกไปช่วยสอนคำสอนและเสริมสร้างความศรัทธาให้แก่คริสตชนในระดับต่าง ๆ ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรInternationalMovement for volunteering in Africa – MIVA ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้ทุนจัดซื้อรถยนต์สำหรับใช้ในการเดินทางออกพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่คำสอนที่สำเร็จการอบรมด้านคริสตศาสนธรรมจากศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทยและจากวิทยาลัยมารดาพระศาสนจักร ซึ่งประกอบด้วย คุณครูราตรี ช้อยเครือ เป็นหัวหน้าทีม คุณครูสุภานีย์ พรกุลวิไล คุณครูมาลี วงศ์ขจรกรกิจ คุณครูอรนุช ถนอมชาติ และคุณครูกฤษฎาชันย์ ไชยเจริญ งานหลักของหน่วยงาน

     คำสอนเคลื่อนที่นี้ก็คือ ออกไปช่วยเสริมศรัทธาให้แก่นักเรียนคาทอลิกในโรงเรียน และกลุ่มคริสตชนที่ห่างไกลจากวัด โดยเวียนออกไปตามที่ต่าง ๆ กว่าจะครบรอบก็กินเวลาประมาณเดือนเศษ จากนั้นก็เริ่มต้นออกพื้นที่วนกลับไปอีกครั้งหนึ่ง

      ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี ยังได้ริเริ่มโครงการต่าง ๆ ในการส่งเสริมสนับสนุน ดูแล ให้กำลังใจแก่ครูคำสอน โดยมีโครงการในการอบรม ให้ความรู้และทักษะการสอนคริสตศาสนธรรม ฟื้นฟูจิตใจ เยี่ยมเยียนครูคำสอนในโอกาสพระคริสตสมภพ และยังได้ให้บริการทางด้านการเข้าเงียบ การอบรมจิตใจ ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ในโอกาสต่าง ๆ ให้บริการด้านอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนตามความจำเป็นในเวลานั้นด้วย

      งานสำคัญอีกชิ้นที่ได้ริเริ่มทำก็คือ การร่วมมือกันระหว่างคณะกรรมการพระคัมภีร์ คณะกรรมการอภิบาลและแพร่ธรรมในโรงเรียน และศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี โดยได้ริเริ่มจัดวันพระคัมภีร์และคำสอนขึ้นในสังฆมณฑลราชบุรีเป็นครั้งแรกในปี 1991 โดยแบ่งจัดเป็น 2 เขต คือเขตเหนือและเขตใต้ ปรากฏว่าได้รับความสนใจและความร่วมมือดีมาก ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนเด็กที่มาร่วมงานแต่ละครั้งมีเด็กมาร่วมจำนวนหลายร้อยคน

       ในปี 1990 สังฆมณฑลราชบุรีได้ส่งคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ ไปศึกษาต่อด้านวิชาคำสอนเยาวชนที่มหาวิทยาลัยซาเลเซียน ประเทศอิตาลีเป็นเวลา 3 ปี ในระหว่างนี้งานของศูนย์คริสตศาสนธรรมได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับ สถานที่ทำงานเดิมจึงคับแคบเกินไปจึงได้ย้ายมาอยู่ที่ศูนย์อภิบาลสังฆมณฑล ซึ่งตั้งอยู่ที่ 31/2-4 ถ.สมบูรณ์กุล ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000 ซึ่งได้ทำพิธีเสกและเปิดอาคารในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1990

       ต่อมาในปี 1993 คุณพ่อสมบูรณ์ แสงประสิทธิ์ ได้รับตำแหน่งเป็นอุปสังฆราชของสังฆมณฑลราชบุรีจึงได้มอบหมายให้คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์คริสตศาสนธรรมสืบต่อ ตั้งแต่ปี 1976 – 1992 นับเป็นเวลา 16 ปี ที่คุณพ่อสมบูรณ์ แสงประสิทธิ์ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ

        คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี ตั้งแต่ปี 1993 คุณพ่อได้ทุ่มเทชีวิตเพื่องานสอนคำสอนโดยพยายามให้งานคำสอนครอบคลุมกลุ่มคริสตชนในทุกระดับและรวมไปถึงพี่น้องต่างความเชื่อ ผู้สนใจ ด้วยแนวคิดที่จะทำให้งานคำสอนเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าถึงได้ โดยคุณพ่อได้พยายามสรุปเนื้อหาจากหนังสือคำสอนต่าง ๆ ประมวลความคิดและถ่ายทอดออกมาผ่านการอบรมในแต่ละครั้งและยังจัดทำเอกสารประกอบการอบรม บทเรียน คำสอน หนังสือคำสอนตามวัย และตามโอกาสต่าง ๆ เช่น เตรียมรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ หนังสือเรื่องสั้นเพื่อเสริมความศรัทธา เพื่อให้ครูคำสอนนำไปใช้ในการสอนคำสอน และมีเครื่องมือในการสอนอย่างครบถ้วนและทันสมัย

       ในปี 1999 คุณพ่อได้ริเริ่มการผลิตเทปเพลงคำสอนชุด “รักที่อบอุ่น” เพื่อใช้เป็นสื่อในการสอนคำสอน โดยมีบราเดอร์เณรใหญ่สังฆมณฑลราชบุรี ช่วยทำดนตรี มีสามเณรเล็ก เยาวชน นักเรียนคำสอนช่วยกันร้อง บันทึกเสียงที่ห้องสื่อมวลชนฯ ราชบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพลงคำสอนถูกนำไปใช้ร้องประกอบการสอนคำสอนกันทั่วประเทศ จากนั้นจึงมีอัลบั้ม “ทำด้วยความรัก” “พระเยซูใจดี” และ “เด็กดี” ตามลำดับ


        ในปี 2001 คุณพ่อมีแนวความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ “พระคัมภีร์” ได้ถูกเปิดอ่าน โครงการไบเบิ้ลคอนเทสต์ จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก หัวข้อศึกษาคือ พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา โดยเน้นและส่งเสริมให้คริสตชนคาทอลิก อ่านและใช้พระคัมภีร์ โดยนำคำสอนหรือข้อคิดที่ได้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันให้มากยิ่งขึ้น โดยมีรูปแบบการแข่งขันตอบคำถาม การใช้งานศิลปะเข้ามาในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการปั้นดินน้ำมัน การวาดภาพ การระบายสี การจัดบอร์ด การทำป้ายข้อความลงบนผ้า ฯลฯ เพื่อเป็นการเชิญชวนให้เด็ก ๆ ได้อ่านพระคัมภีร์ และเปิดโลกการเรียนรู้ของพวกเขาและทำให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น

        ในปี 2006 คุณพ่อมีแนวคิดว่าควรจัดทำเว็บไซต์คำสอนเพื่อเป็นอีกช่องทางของการเผยแพร่งานคำสอนในยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น โดยต้องการให้เป็นช่องทางสำหรับสังคมยุคใหม่ที่สามารถเข้ามาแสวงหาความรู้ทางศาสนาได้ทุกเวลา 24 ชั่วโมงและเป็นประโยชน์สำหรับครูคำสอนที่จะค้นหาบทเรียน กิจกรรม สื่อการสอนเพื่อนำไปใช้ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงได้จัดทำเว็บไซต์ของศูนย์คำสอนขึ้น โดยมีชื่อว่า คำสอนดีดี.คอม (www.kamsondeedee.com)

       คุณพ่อยังทุ่มเทให้กับงานอบรมด้านคริสตศาสนธรรมให้กับพระสงฆ์ นักบวช ครูคาทอลิกและครูคำสอน และไม่เฉพาะในสังฆมณฑลราชบุรีเท่านั้น แต่เดินทางไปอบรมให้กับทุกสังฆมณฑลในประเทศไทยด้วย

        คุณพ่อได้สนับสนุนส่งเสริมฆราวาสให้ศึกษาต่อในด้านคริสต-ศาสนธรรมอย่างต่อเนื่องด้วย โดยส่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เข้ารับการอบรมที่ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทย (NCC) 1 คน คือ นางสาวสมใจ เซี๊ยะเม้ง และส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนฆราวาสได้เข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต คริสตศาสนศึกษาที่วิทยาลัยแสงธรรมอีก 3 คน คือ นางสาวกฤติยา อุตสาหะ นางสาวณัฐกานต์ ศรีพุก และ นางสาวสุพรรณิการ์ จุงใจ

        คุณพ่อยังสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และฆราวาสได้ไปรับการศึกษาอบรมเพิ่มเติมในต่างประเทศด้วย โดยส่ง นายวรเดช มั่งคั่งสง่า ไปศึกษาด้านคำสอนที่วิทยาลัยมารดาพระศาสนจักร ในหลักสูตรคำสอนแพร่ธรรม ระยะเวลา 3 ปี และส่งนางสาวศิริลักษณ์ เบญจภุมริน ไปรับการอบรมเรื่องพระคัมภีร์ ที่ศูนย์ Ad Gentes ของคณะพระวจนาตถ์ของพระเจ้า (SVD) ที่เนมี กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นระยะเวลา 4 เดือน และส่งนางสาวกฤติยา อุตสาหะ ไปศึกษาหลักสูตรเทววิทยาเบื้องต้น ระยะเวลา 3 เดือน ที่วิทยาลัย Kristu Jyoti College ประเทศอินเดียด้วย นอกจากนี้ คุณพ่อยังส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ได้มีโอกาสไปสัมผัสชีวิตหมู่บ้านเทเซ่ ประเทศฝรั่งเศส เป็นระยะเวลา 3 เดือน อีก 2 คน
คือ นางสาวสมใจ เซี๊ยะเม้ง และนางสาวกฤติยา อุตสาหะ

        นอกเหนือจากงานด้านคริสตศาสนธรรม คุณพ่อยังมีภาระหน้าที่อีกหลายด้าน ทั้งหน้าที่พระศาสนจักรท้องถิ่น (สังฆมณฑล) และหน้าที่ในพระศาสนจักรระดับชาติ คุณพ่อมีความตั้งใจที่จะทำงานทุก ๆ หน้าที่ให้สำเร็จอย่างดีที่สุด ทำให้ระยะหลังสุขภาพของคุณพ่อเริ่มไม่แข็งแรงและมีอาการเจ็บป่วย พระสังฆราชยอห์นบอสโก ปัญญา กฤษเจริญ จึงประกาศให้คุณพ่อวัชศิลป์พักภารกิจฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย เพื่อเตรียมคุณพ่อเพื่อทำงานกับกลุ่มฆราวาสซึ่งเป็นงานที่สำคัญของพระศาสนจักรในปัจจุบัน และได้แต่งตั้งคุณพ่อปราโมทย์ นิลเพ็ชรทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรีสืบต่อมา

        คุณพ่อปราโมทย์ นิลเพ็ชร ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์คริสตศาสนธรรม ตั้งแต่ปี 2008 คุณพ่อได้สืบสานงานต่าง ๆ โดยปรับวิธีการสอนให้เข้ากับสังคมยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

        ในสมัยของคุณพ่อปราโมทย์ มีรูปแบบการทำงานแบบร่วมทำงาน ทำได้ทุกบทบาทหน้าที่ทั้งเจ้านายและเพื่อนของเพื่อนผู้ร่วมงาน พยายามทำให้การเรียนและการสอนคำสอนเป็นเรื่องสนุก เช่น คุณพ่อได้สร้างสรรค์การนำเสนอคำสอนในรูปแบบการวาดการ์ตูนลงสารคำสอน การใช้สื่อที่ทันสมัยในการสอนและการอบรม

        คุณพ่อปราโมทย์ มีประสบการณ์และความสามารถในด้านการอบรมและการทำงานกับเยาวชน งานส่วนใหญ่ของคุณพ่อจึงเป็นงานอบรมให้กับ ครู บุคลากร ผู้ปกครอง เยาวชนและเด็ก ๆ โดยเน้นการปลูกฝัง ค่านิยม แนวคิด หลักปฏิบัติที่ถูกต้องในสังคม

         คุณพ่อปราโมทย์ ยังได้ริเริ่มงานสอนคำสอนแบบเดลิเวอรี่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการฟื้นฟูคำสอนให้กับสัตบุรุษตามวัดต่าง ๆ ในวันอาทิตย์หลังพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยใช้เวลาสั้น ๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีหัวข้อให้เลือกตามสนใจและความสะดวกของคุณพ่อเจ้าอาวาสและสัตบุรุษ เช่น พิธีกรรม พระคัมภีร์ การภาวนา ศีลศักดิ์สิทธิ์ การพิจารณามโนธรรม กฎหมายพระศาสนจักร ฯลฯ และเชิญวิทยากร (พระสงฆ์) ที่มีความรู้ตามหัวข้อต่าง ๆ ไปให้การอบรม สำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชนก็จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์คริสตศาสนธรรมจัดกิจกรรมคำสอนที่มีเนื้อหาสอดคล้องเหมือนกับเนื้อหาของผู้ใหญ่ให้ด้วย

        นอกจากนี้ คุณพ่อยังสนับสนุนฆราวาสให้ไปศึกษาต่อในด้านคริสตศาสนธรรมเช่นเดียวกัน โดยได้ส่งฆราวาสเข้ารับการอบรมที่ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมประเทศไทย (NCC) หลักสูตรภาคฤดูร้อน 1 คน คือ นางสาวรพีพร ระดมกิจ และส่งฆราวาส 1 คนเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต คริสตศาสนศึกษาที่วิทยาลัยแสงธรรม คือ นางสาวอันธิกา เบญจกุล และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ คือนางสาวกฤติยา อุตสาหะ ให้ไปศึกษาต่อด้านงานอภิบาลและงานคำสอนแพร่ธรรม ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยอูร์บาเนียนา ประเทศอิตาลี เป็นระยะเวลา 3 ปี อีกด้วย